ภัยร้ายจากการปล่อยให้เด็กปวดฟัน อันตรายกว่าที่คุณคิด

Posted: 19 February , 2022

หลายครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายรู้สึกกังวลใจเวลาเห็นเด็กปวดฟัน เพราะนอกจากจะไม่ได้เห็นสีหน้าของลูกที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มจากการทานของอร่อยแล้ว ยังต้องเห็นลูกน้อยทรมานจากอาการปวดฟันจนนอนไม่ได้ ส่งผลให้เด็กๆ หงุดหงิดง่าย ถ้าหากปล่อยไว้ในระยะยาวอาจส่งผลถึงพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกช้าลงด้วย แม้ว่าสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กปวดฟันนั้นเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากพฤติกรรมการดูแลฟันของเด็กเองด้วย วันนี้ทาง Homey Dental Clinic จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และวิธีบรรเทาอาการเมื่อเด็กปวดฟัน เพื่อที่เราจะได้เห็นลูกมีรอยยิ้มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข

เด็กปวดฟัน

 

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กปวดฟัน

สาเหตุที่พบส่วนใหญ่เกิดจากความไม่รู้หรือความเคยชินของเด็กเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกต หากพบพฤติกรรมเหล่านี้ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันทีเพื่อให้เด็กหยุดทำก่อนที่จะมีปัญหาฟันผุตามมาภายหลังซึ่งอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

 

1. ดูดนิ้วมือ

เด็กเล็กมักจะดูดนิ้วหัวแม่มือตามสัญชาตญาณที่ต้องการความรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และจะหยุดดูดได้เองเมื่ออายุ 2-4 ปี หากไม่สามารถหยุดดูดได้เอง จะส่งผลเสียต่อฟันในระยะยาว ยิ่งถ้าเด็กดูดแรงมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ฟันหน้าบนและล่างสบกันไม่ได้ ทำให้กัดเคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาของกระดูกขากรรไกร

 

2. กัดฟันบ่อย

การกัดฟันมีผลเสียต่อเด็กโดยตรงโดยเฉพาะเด็กที่ยังมีฟันน้ำนมซึ่งเป็นฟันที่ยังแข็งแรงไม่เต็มที่เท่าฟันแท้ ซึ่งจะทำให้ฟันสึกกร่อน รู้สึกปวดกรามและปวดฟัน คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตลูกไม่ว่าจะเป็นการกัดฟันยามว่างหรือเวลานอนก็ตาม หากอาการกัดฟันไม่หายไปเอง ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที

 

3. มีเศษอาหารติดค้างที่ฟัน เนื่องจากทำความสะอาดไม่ถูกวิธี

นอกจากจะต้องแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือแปรงฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหารแล้ว การแปรงฟันให้ถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการดูแลฟันของเด็ก รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากอย่างเช่น ไหมขัดฟัน หรือน้ำยาบ้วนปาก จะช่วยให้ฟันแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย

 

4. ฟันหักหรือร้าว

ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือการใช้ฟันกัดของแข็งเกินไปจนทำให้ฟันหักก็ตาม มักส่งผลตามมาคืออาการปวดฟันอย่างรุนแรง ดังนั้นหลังจากฟันหักแล้วให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและทำความสะอาดฟันที่หักทันที จากนั้นควรรีบไปหาทันตแพทย์โดยเร็วที่สุดเพื่อให้ฟันที่หักสามารถต่อกลับเข้าไปเหมือนเดิม หรือในกรณีที่ต่อไม่ติด ทันตแพทย์จะครอบหรืออุดฟันให้เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันมีปัญหาอื่นตามมา

 

5. ปัญหาจากงานทันตกรรม

กรณีที่การครอบหรืออุดฟันเกิดปัญหา เช่น ที่ครอบฟันหลวม แตก หลุดออก หรือเกิดอาการแพ้ตามมา อาจทำให้เส้นประสาทฟันโผล่มาให้เห็นชัดขึ้น ดังนั้นหากพบปัญหาดังกล่าวควรรีบไปทันตแพทย์เพื่อซ่อมที่ครอบฟันทันที

 

6. เกิดฝีในฟัน

หลังจากเกิดฟันผุจนโพรงประสาทฟันของเนื้อเยื่อของฟันอักเสบ จึงเกิดฝีที่เหงือกซึ่งมีลักษณะเป็นถุงหนองในกระดูกขากรรไกร จนทำให้เกิดอาการปวดเป็นพักๆ บวมแดง ส่งผลให้รับรสชาติอาหารได้ไม่เต็มที่ด้วย

 

วิธีบรรเทาอาการปวดฟันเบื้องต้นสำหรับเด็ก

1. แปรงฟัน

นำแปรงสีฟันขนนุ่มล้างให้สะอาด จากนั้นแปรงให้ทั่วช่องปากของเด็ก นอกจากจะช่วยทำความสะอาดช่องปากแล้วยังนวดเหงือกไปในตัวด้วย

 

2. ใช้ไหมขัดฟัน

หากมีเศษอาหารติดฟันในซอกเหงือกเป็นเวลานานและไม่สามารถใช้แปรงสีฟันแปรงออก ให้รีบใช้ไหมขัดฟันดันเศษอาหารออกโดยเร็วที่สุด

 

3. อมเกลือแก้ปวดฟัน

เกลือช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ปวดฟัน โดยนำเกลือผสมกับน้ำอุ่นแล้วอมไว้ประมาณ 30 วินาที หากไม่ดีขึ้นแนะนำให้ทำซ้ำหลายๆ รอบ

 

4. ใช้น้ำร้อนช่วยประคบ

ถ้ามีฟันผุทะลุโพรงประสาทฟันเป็นหนองที่ปลายรากฟันและบวม ควรใช้น้ำร้อนช่วยประคบบริเวณที่บวมนอกช่องปาก จะช่วยลดอาการปวดฟันได้ดี และช่วยเพิ่มการระบายหนอง สามารถบรรเทาอาการปวดได้ดี

 

5. ผ้าเย็นแช่แข็งหรือจุกนมแช่แข็ง

นำผ้าขนหนูหรือจุกนมยางไปทำความสะอาด แล้วนำไปแช่ช่องฟรีซจนกว่าจะแข็ง จากนั้นเอาไปให้เด็กกัดเล่น

 

6. น้ำมันกานพลู

นำสำลีชุบน้ำมันกานพลูอุดลงไปในรูที่ผุ ฤทธิ์ของน้ำมันจะช่วยแก้ปวดฟันได้

 

7. การรับประทานยาแก้ปวด

ได้แก่ พาราเซตามอล หรือ แอสไพริน โดยปกติจะรับประทานยาแก้ปวดครั้งละ 1-2 เม็ด ทุก 4-6 ชั่วโมง ทั้งนี้ควรอ่านฉลากยาประกอบด้วย

 

8. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่เสี่ยงต่อการปวดฟัน

  • งดทานอาหารรสจัด เช่น หวานหรือเปรี้ยวจัด
  • งดทานอาหารที่มีอุณหภูมิมากหรือน้อยจนเกินไป เช่น ไอศกรีม หรือนมร้อน
  • งดทานอาหารที่แข็งจนเกินไป เช่น ขนมน้ำตาลใส่ถั่ว
  • งดใช้ฟันซี่ที่ปวดเคี้ยวอาหาร ให้ใช้ฟันอีกข้างหนึ่งเคี้ยวแทน

 

แม้วิธีการข้างต้นจะช่วยบรรเทาให้เด็กปวดฟันน้อยลง แต่สิ่งสำคัญในการรักษาอาการปวดฟันคือการดูแลรักษาฟันที่ถูกต้องตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น นอกจากคุณพ่อคุณแม่จะต้องให้ความรู้เกี่ยวกับฟันแล้ว จะต้องพาเด็กๆ มาตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุกๆ 6 เดือนด้วย โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุไม่ถึง 12 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่มีพัฒนาการทางฟันอย่างต่อเนื่อง

 

บทความที่น่าสนใจ


ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

 

คลินิกทันตกรรมเด็ก

 

คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน

 

สาขาทั้งหมดของ Homey Dental Clinic 




สาขากาญจนาภิเษก
ซอย 7/2 แขวง ศาลาธรรมสพน์
เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
สาขาประดิษฐ์มนูญธรรม
991 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
สาขา I’m Park จุฬา (เฉพาะเด็ก)
โครงการ I’mpark จุฬาฯ  355 ถนน เจริญเมือง แขวง วังใหม่ กรุงเทพมหานคร 10330



ทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้านนี้

ติดต่อเรา