HOMEY DENTAL CLINIC
Homey Dental Clinic ก่อตั้งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจที่อยากรักษาคนไข้ด้วยความ “เข้าใจและใส่ใจ” พร้อมทั้งมอบแนวทางการรักษาที่เน้นป้องกันสุขภาพปากในระยะยาว มากกว่าการรักษาแค่ปัญหาฟันเพียงอย่างเดียว ทันตแพทย์ของเราทุกคนมีทักษะ Homey Dental Protection Program เป็นทักษะที่ใช้ในการฟังและสื่อสารกับคนไข้ตามหลักจิตวิทยาสําหรับเด็กโดยเฉพาะ รวมถึงทีมผู้ช่วยใจเย็นและมากประสบการณ์ สามารถรับมือกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี ทําให้เด็กไม่รู้สึกกลัวขณะทําฟันกับเรา
บรรยากาศการดูแลฟันเด็กที่ Homey Kids Dental Clinic
เราเชื่อว่า การสร้างบรรยากาศที่ดีจะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกและสบายใจทุกครั้งที่มาทําฟัน ส่งผลให้เด็กรู้สึกดีกับการดูแลสุขภาพช่องปาก คลินิกของเรามีโซน Homey Kids Playland ที่เต็มไปด้วยของเล่นมากมาย ให้ลูกๆ ได้เล่นสนุก และรู้สึกผ่อนคลายก่อนไปทําฟัน
ทีมทันตแพทย์เฉพาะทางเด็ก
สินค้าและบริการ
รีวิวทันตกรรมเด็ก
รีวิวการจัดฟัน
บทความเกี่ยวกับทันตกรรม
คำถามที่พบบ่อย
ทันตกรรมสำหรับเด็กคืออะไร
เป็นการรักษาสุขภาพช่องปากเพือรองรับการดูแลและแก้ปัญหาฟันที่อาจเกิดขึ้นเองจากกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดจากตัวเด็ก ซึ่งการแปรงฟันเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการดูแลสุขภาพช่องปาก เนื่องจากฟันเด็กที่ขึ้นเป็นชุดแรกเป็นฟันนํ้านมที่มีเคลือบฟันแข็งแรงน้อยกว่าฟันแท้ที่จะขึ้นมาตามช่วงวัย แบ่งเป็น
● ให้คําแนะนําเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก
● รักษาฟันด้วยการเคลือบฟลูออไรด์
● เคลือบหลุมร่องฟัน
● อุดฟันน้ำนม
● ครอบฟัน
● ถอนฟัน
● รักษารากฟัน
● จัดฟัน
ทำไมเด็กต้องฟันกับหมอฟันเด็กเท่านั้น
หมอฟันเด็ก หรือทันตแพทย์เด็ก เป็นผู้ที่ทําหน้าที่ดูแลรักษาฟันให้แก่เด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นช่วงอายุ 6 เดือน – 12 ปี เนื่องจากฟันนํ้านมของเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าฟันแท้ของผู้ใหญ่ จึงมีโอกาสเกิดฟันผุมากกว่า และจําเป็นต้องดูแลรักษาจนกว่าฟันแท้จะขึ้นแล้วจึงสามารถรักษากับทันตแพทย์ผู้ใหญ่ได้ตามช่วงวัย
หมอฟันที่ดีควรสําเร็จการศึกษามาจากทันตแพทยศาสตรบัณฑิตโดยตรง, มีประสบการณ์การทํางานเป็นเวลานาน, มีหลักจิตวิทยาในการพูดคุยเพื่อไม่ให้เด็กกลัวการทําฟัน, สามารถสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างตรงจุด รวมถึงแนะนําวิธีการดูแลฟันที่ดีและเข้าใจง่าย มีทีมผู้ช่วยที่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก รวมถึงมีสถานที่เตรียมไว้ให้เด็กเล่นก่อนทําฟัน เพื่อให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อให้เด็กทุกคนที่ได้รับการรักษา รู้สึกสนุกและผ่อนคลายทุกครั้งที่มาคลินิกรักษาฟัน
ข้อควรพิจารณาในการเลือกคลินิกทําฟันเด็กที่คุณควรรู้
หลักการเลือกคลินิกทําฟันสําหรับเด็กที่ดีควรเลือกคลินิกที่มีข้อมูลการติดต่อชัดเจน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทุกเมื่อ, เดินทางสะดวก, ตัวคลินิกควรถูกออกแบบมาสําหรับเด็กโดยเฉพาะ แต่หากคุณยังไม่แน่ใจกับคลินิกที่สนใจ ทางเราแนะนําให้ดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งนี้อย่าลืมเช็กราคาว่าเหมาะสมกับที่เราจ่ายไปหรือไม่ด้วยนะครับ
ปัญหาฟันแบบไหนบ้างที่ควรจัดฟัน?
หากพบภาวะฟันเก ฟันห่าง ฟันเหยิน ฟันผุ ฟันบิ่น จนเกิดปัญหาในการใช้ชีวิต ทันตแพทย์จะแนะนําให้จัดฟันเพื่อแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
ฟันไม่มีปัญหาแต่อยากจัดตามแฟชั่นได้หรือไม่?
โดยทั่วไปหากไม่พบปัญหาเกี่ยวกับฟัน ทันตแพทย์จะไม่แนะนําให้จัดแต่อย่างใดเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาฟันในอนาคต
มีปัญหาช่องปากสามารถจัดฟันได้หรือไม่?
หากตรวจพบปัญหาช่องปาก เช่น โรคปริทันต์ ฟันผุฟันบิ่น หรือหินปูน ทันตแพทย์จะทําการรักษาปัญหาเหล่านี้ก่อนเพื่อไม่ให้ เกิดปัญหา แทรกซ้อนขณะจัดฟัน เพื่อให้ติดเครื่องมือจัดฟันได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
จัดฟันแบบไหนที่เหมาะกับเด็กมากที่สุด
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของแต่ละคนด้วยว่าเหมาะกับแบบไหนมากกว่า เพราะการจัดฟันแต่ละแบบก็มีข้อดีไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น
การจัดฟันแบบโลหะทั่วไป
เหมาะสําหรับใครก็ตามที่ไม่ชอบความยุ่งยากในการถอดไปถอดมา เนื่องจากการไม่สามารถถอดเหล็กดัดฟันได้ ราคาไม่แพง แต่มีข้อเสียตรงที่ทําความสะอาดยากและต้องดูแลเรืองอาหารการกินเป็นพิเศษ
การจัดฟันแบบใส
เหมาะสําหรับใครก็ตามทีชอบความสะดวกสบายในการดูแลรักษา เพราะถอดมาทําความสะอาดง่ายกว่าแบบโลหะ เพิ่มความมันใจในการใช้ชีวิตมากขึ้นเพราะการจัดฟันแบบใสทําให้ดูเหมือนฟันแท้ทุกประการ แต่มีราคาสูงกว่าแบบโลหะ
การจัดฟันแบบดามอน
เหมาะสําหรับคนวัยทํางานที่ไม่ค่อยมีเวลามาพบทันตแพทย์ เพราะเป็นการจัดฟันที่ทําให้ฟันเคลื่อนที่เข้ารูปเรียงตัวได้เร็วและเจ็บน้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่น แถมยังทําความสะอาดง่ายอีกด้วย
เริ่มจัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?
หลายคนอาจคิดว่าต้องรอให้ฟันนํ้านมหลุดออกและให้ฟันแท้ขึ้นมาก่อน แต่ที่จริงแล้วสามารถจัดฟันได้ตั้งแต่อายุ 6-7 ปี ขึ้นไป เนื่องจากเป็นช่วงที่แก้ปัญหาช่องปากง่ายกว่าวัยอื่น ซึ่งจะช่วยลดปัญหาฟันแท้ขึ้นผิดปกติจนเกิดฟันเก ฟันห่างได้ในอนาคต
จัดฟันใช้เวลานานไหม?
โดยทั่วไปจะอยู่ที่ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน แผนการจัดฟันของทันตแพทย์ ความร่วมมือระหว่างจัดฟัน ซึ่งการจัดฟันของเด็กจะใช้เวลาเพียง 6 เดือนเท่านัน
ฟันของเด็กมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
1. ฟันนํานม (Deciduous teeth)
พัฒนามาจากหน่อฟัน (Tooth Bud) ที่สร้างขึนตั้งแต่อยู่ในครรภ์ช่วงเดือนที่ 6 หน่อฟันจะอยู่ในขากรรไกรและเริ่มมีการเสริมสร้างแร่ธาตุ มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสมาสะสม ทําให้หน่อฟันแข็งและมีรูปร่างเป็นฟันที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จนกลายมาเป็นฟันซี่แรกที่งอกออกมาจากเหงือกของเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 4-7 เดือนเป็นต้นไป แต่สําหรับเด็กบางคนอาจมีฟันนํ้านมงอกขึ้นมาตั้งแต่อายุ 3 เดือน หรืออาจงอกช้าเป็นช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไปก็ได้เช่นกัน
ฟันนํ้านมซี่แรกจะเริ่มงอกตั้งแต่ฟันหน้าล่างและฟันหน้าบน ตามด้วยฟันส่วนอื่นจนครบ 20 ซี่ภายในช่วงอายุ 2 ปี โดยฟันนํ้านมจะอยู่กับเด็กไปจนถึงอายุ 6 ปี จากนั้นจะมีฟันแท้งอกมาแทนที่ ซึ่งมีหน้าที่ช่วยให้ทานอาหารง่ายและช่วยให้เด็กออกเสียงชัดเจนขึ้น (อ่านเพิมเติม)
2. ฟันแท้ (Permanent teeth)
เป็นฟันที่ขึ้นมาหลังจากฟันนํานมหลุดออกจากปาก มีทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็นฟันบน 16 ซี่ และฟันล่าง 16 ซี่ ซึงฟันแท้แต่ละซี่จะมีหน้าที่แตกต่างกัน เช่น ฟันหน้าใช้ตัดหรือกัดอาหาร ส่วนฟันเขี้ยวใช้ฉีกอาหาร
ให้แยกออกจากกัน เป็นต้น ฟันแท้ซี่แรกจะขึ้นต่อเมื่อเด็กมีอายุ 6 ปีขึนไป เป็นฟันแท้ที่ขึ้นมาอยู่ท้ายฟันกรามนํ้านมทั้ง 2 ซี่ หากฟันซี่แรกนี้เกิดผุขึ้นมา ย่อมส่งผลให้ฟันแท้อื่นๆ ขึ้นไม่ตรงตําแหน่งและกลายเป็นฟันซ้อน หรือฟันเก หลังจากนันฟันแท้จะทยอยเกิดขึ้นมาทดแทนฟันนํานมที่หลุดออกไป ซึ่งฟันแท้จะขึ้นตามมาอีกจํานวน 28 ซี่ เมือเด็กมีอายุ 12-13 ปี ต่อจาก นั้นฟันจะไม่ขึ้นมาอีกจนถึงอายุ 18 ปี จึงมีฟันแท้อีก 4 ซี่ ขึนมาอีกจนครบ 32 ซี่ ส่วนฟันแท้ 4 ซี่สุดท้าย หรือ ฟันคุด นั้นเป็นฟันกรามทั้งหมดที่อยู่ข้างซี่ในสุด ไม่ได้ชิดติดกับฟัน 28 ซี่แรกและอาจเอียงออกจากแนวฟันทําให้เกิดช่องว่างขึ้น โดยทั่วไปหมอฟันเด็กจะแนะนําให้ถอนออก (อ่านเพิมเติม)