อย่าปล่อยให้ลูกฟันผุทั้งปาก จนรักษายากเกินเยียวยา

Posted: 21 June , 2022

คุณพ่อคุณแม่อาจเคยเห็นเด็กหลายคนมีปัญหาฟันผุทั้งปากกันมาบ้างใช่มั้ยครับ แล้วอาการฟันผุมีกี่แบบ ส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปากของลูกน้อยยังไงบ้าง มาดูกันครับ

ฟันผุทั้งปาก

ทำไมเด็กถึงเป็นฟันผุง่าย เกิดจากอะไรได้บ้าง

ฟันผุเกิดจากแบคทีเรีย Streptococcus mutans ซึ่งเป็นแบคทีเรียชนิดไม่ดีสะสมอยู่ในช่องปากและย่อยสลายอาหารที่ตกค้างหลังจากรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล เกิดเป็นกรดแลคติกที่มีฤทธิ์กัดกร่อนแร่ธาตุแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่อยู่ในผิวเคลือบฟันจนทะลุถึงชั้นโพรงประสาทฟัน ทำให้เป็นรูเล็กๆ  และมีอาการปวดฟันและฟันอักเสบเป็นหนองตามมา โดยสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมของเด็กเอง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพฟัน เช่น ลูกอม, น้ำอัดลม, ขนมหวาน, อาหารขยะ การนอนกัดฟัน หรือใช้ลิ้นดุนฟันเป็นประจำ หรืออาจเกิดจากความผิดปกติของฟัน เช่น ฟันเก, ฟันซ้อน, ฟันคุด ซึ่งยากต่อการทำความสะอาด จนฟันผุเป็นจุดดำทำให้เสียวฟันง่ายขณะทานอาหาร หรืออาจปวดมากจนนอนไม่หลับ โดยส่วนใหญ่มักจะเป็นที่หลุมร่องฟันและซอกระหว่างฟัน

 

ฟันผุมีกี่แบบ อะไรบ้าง

  • ฟันผุระยะที่ 1 มีรูผุสีเทาหรือดำที่ผิวฟัน มีสีขาวขุ่นรอบๆ
  • ฟันผุระยะที่ 2 รูฟันผุขยายและลึกขึ้นเข้าสู่ผิวเคลือบฟัน อาจเสียวฟันขณะดื่มน้ำเย็น หรือทานอาหารหวาน
  • ฟันผุระยะที่ 3 รูฟันผุเจาะลึกถึงเนื้อฟัน ทำให้ปวดฟันและเคี้ยวอาหารไม่ได้
  • ฟันผุระยะที่ 4 เนื้อเยื่อโพรงประสาทฟันถูกทำลายไปยังปลายรากฟัน เกิดฟันโยก บวมหรือมีฝีทะลุเหงือก หากขั้นแรงร้ายเชื้ออาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด

 

ข้อเสียของการปล่อยฟันผุทิ้งไว้นานๆ

  • เด็กทานอาหารไม่มีความสุขเนื่องจากปวดฟัน ทำให้ขาดสารอาหารที่จำเป็น
  • เครียดง่าย และไม่มั่นใจในตัวเองเนื่องจากฟันผุจะทำให้ฟันมีสีน้ำตาลหรือดำ
  • กล้ามเนื้อใบหน้า, ช่องปาก และกระดูกขากรรไกรพัฒนาช้า
  • ฟันแท้ที่ขึ้นตามต่อจากฟันที่ผุอาจผุตามกัน
  • เชื้อที่เกิดจากฟันผุอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองโต

 

วิธีควบคุมพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อฟันผุทั้งปาก

1. ควบคุมปริมาณลูกอมของลูก

คุณพ่อคุณแม่ควรลดปริมาณลูกอมให้น้อยลง โดยตั้งเงื่อนไขว่าต้องให้จะให้เฉพาะเวลาไหนบ้างและให้ได้ไม่เกินกี่เม็ด ทางที่ดีควรให้ลูกกินแค่วันละ 1-2 เม็ด ก็พอ ไม่ควรให้กินก่อนมื้ออาหารเพราะอาจทำให้ลูกไม่อยากกินข้าวและไม่ให้กินขณะวิ่งเล่นหรือเดิน เพราะอาจติดคอจนหายใจไม่ออก

 

2. เลิกดูดขวดนม

สำหรับเด็กที่มีอายุ 6 เดือน คุณพ่อคุณแม่ควรค่อยๆ ลดนมในตอนกลางคืนลง เพราะการดื่มนมช่วงกลางคืนเป็นประจำ หรือดื่มจนหลับไป อาจเกิดฟันผุตามมา ทางที่ดีควรรีบให้เลิกโดยด่วน ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ถ้าเป็นเด็กที่มีอายุ 3 ขวบขึ้นไป แล้วยังติดขวดนมอยู่ อาจแสดงอาการต่อต้านมากขึ้น โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีเหล่านี้เพื่อให้ลูกเลิกขวดนมได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

  • บอกลูกบ่อยๆ ว่ากำลังจะเลิกขวดนม เพื่อให้ลูกรับรู้และเตรียมตัว
  • คุณพ่อคุณแม่ควรไม่ยอมใจอ่อน เมื่อลูกงอแงอยากได้ขวดนม
  • เก็บขวดนมให้พ้นจากเด็ก เพื่อที่เด็กจะได้ไม่นึกถึงและสร้างความเคยชินกับการไม่มีขวดนม และเลิกขวดนมไปเอง
  • เปลี่ยนจากขวดนม หันมาใช้แก้วน้ำแทน
  • ชื่นชมลูกเมื่อเลิกขวดนมได้แล้ว

 

3. แปรงฟันอย่างถูกสุขลักษณะ

โดยทั่วไปหลายคนอาจให้ลูกแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง แต่ทางที่ดีควรแปรงหลังรับทานอาหาร 1 ชม. เพื่อไม่ให้เศษอาหารตกค้างและเกิดกรดในฟันที่ทำให้เคลือบฟันอ่อนแอและเกิดฟันผุ โดยเลือกใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ปริมาณ 1,000 ppm ตามกำหนดของสมาคมทันตกรรมสำหรับเด็ก ส่วนแปรงต้องมีขนนุ่ม ปลายมนกลม ส่วนวิธีแปรงฟันที่ถูกต้อง ควรเริ่มจากวางแปรงบนฟันหน้าในแนวนอน ทำมุม 45 องศา บริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน จากนั้นขยับแปรงอย่างเบามือทำซ้ำไปมา 4-5 ครั้ง ตามแนวฟันและเหงือก แปรงจากด้านนอกเข้าไปด้านในจนครบทั้งฟันบน-ล่าง 10 ครั้ง สุดท้ายแปรงลิ้นให้ทั่ว 10 ครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียที่สะสมบนลิ้น และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเล็กน้อย เพื่อเอาฟองรอบปากออกและทำให้ฟลูออไรด์ยังคงอยู่ในปากได้นาน

 

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปากให้ถูกต้อง

เด็กๆ หรือคุณพ่อคุณแม่หลายคนยังมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดช่องปาก ต้องรู้ไว้ก่อนเลยว่าไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากหรือไหมขัดฟันแทนการแปรงฟัน แต่ควรใช้ควบคู่กับหลังจากการแปรงฟัน เพราะการแปรงฟันเป็นการทำความสะอาดซอกฟันที่มีเศษอาหารติดได้ดีพอเพียงต่อเด็กที่มีสุขภาพปากดี ยิ่งใช้ไหมขัดฟันขัดซอกฟันก็ยิ่งกำจัดเศษอาหารตามซอกฟันได้ดียิ่งขึ้น หากเด็กมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อฟันผุจนทำให้ฟันผุ อาจต้องทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากมากยิ่งขึ้นกว่าเด็กทั่วไป

 

วิธีดูแลช่องปากนอกจากการแปรงฟัน

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากควบคู่ไปด้วย เช่น ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก
  • หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อปัญหาฟัน เช่น การเคี้ยวอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป, การกัดฟันทั้งแบบรู้หรือไม่รู้ตัว และการใช้ลิ้นดุนฟัน หรือการเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการกระแทก หากจำเป็นต้องเล่นก็ควรใส่เฝือกสบฟัน หรือรีเทนเนอร์ป้องกันเสมอ
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน

 

บทความที่น่าสนใจ


ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

 

คลินิกทันตกรรมเด็ก

 

คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน

 

สาขาทั้งหมดของ Homey Dental Clinic 




สาขากาญจนาภิเษก
ซอย 7/2 แขวง ศาลาธรรมสพน์
เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
สาขาประดิษฐ์มนูญธรรม
991 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
สาขา I’m Park จุฬา (เฉพาะเด็ก)
โครงการ I’mpark จุฬาฯ  355 ถนน เจริญเมือง แขวง วังใหม่ กรุงเทพมหานคร 10330



ทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้านนี้

ติดต่อเรา