ทำไมเด็กต้องทำฟันกับหมอฟันเด็กเท่านั้น
Posted: 1 March , 2022หลายคนอาจมีคำถามว่าหากลูกมีปัญหาเกี่ยวกับฟันแล้วสามารถพาลูกไปรักษากับหมอฟันเด็กทั่วไปเหมือนผู้ใหญ่ได้หรือไม่ วันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านมาทำความรู้จักกับหมอฟันเด็กให้มากยิ่งขึ้นว่าเขาคือใคร ทำไมเราถึงต้องรักษาฟันกับพวกเขา เพื่อสร้างความมั่นใจในการพาลูกไปตรวจสุขภาพฟันซึ่งเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับฟันของลูกน้อยได้ในอนาคต
หมอฟันเด็กคือใคร?
หมอฟันเด็ก หรือทันตแพทย์เด็ก เป็นผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาฟันให้แก่เด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้นช่วงอายุ 6 เดือน – 12 ปี เนื่องจากระบบฟันของเด็กที่ยังไม่แข็งแรงมากเท่าฟันผู้ใหญ่ที่เป็นฟันแท้ จึงมีโอกาสฟันผุมากกว่าและจำเป็นต้องได้รับการดูแลจนกว่าฟันแท้จะขึ้นแล้วจึงสามารถรักษากับทันตแพทย์ผู้ใหญ่ได้ตามช่วงวัย
หมอฟันเด็กที่ดีควรมีอะไรบ้าง
1. สำเร็จการศึกษามาจากทันตแพทยศาสตรบัณฑิตโดยตรง
อย่างแรกเลยหมอฟันเด็กทุกคนจะต้องสำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต และศึกษาต่อสาขาทันตกรรมสำหรับเด็ก คณะทันตแพทยศาสตร์ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวข้องทางด้านทันตกรรมเด็กโดยตรง นอกจากหมอฟันเด็กทุกคนจะมีความรู้เกี่ยวกับฟันและอวัยวะในช่องปากอื่นๆ ของเด็ก และสามารถตรวจฟัน วินิจฉัย ดูแลรักษาโรคในช่องปากและอวัยวะที่เกี่ยวข้องได้แล้วยังต้องเรียนรู้ด้านจิตวิทยาสำหรับเด็กด้วย
2. มีประสบการณ์การทำงานเป็นเวลานาน
ด้วยตัวหลักสูตรของทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ทำให้หมอฟันเด็กทุกคนมีประสบการณ์ในการทำฟันตั้งแต่ช่วงชั้นปีที่ 4 ไปจนถึงปี 6 โดยเริ่มจากการรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านทันตกรรมเบื้องต้นตามคลินิก และฝึกปฏิบัติงานภาคสนามทางทันตกรรมชุมชน เมื่อสำเร็จการศึกษาหมอฟันเด็กสามารถปฏิบัติงานตามคลินิกทันตกรรมเด็กได้ทันที
3. มีหลักจิตวิทยาในการพูดคุยเพื่อไม่ให้เด็กกลัวการทำฟัน
เนื่องจากหมอฟันเด็กจะต้องเรียนรู้และได้รับการอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับพฤติกรรมของเด็กทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพราะเด็กแต่ละคนจะตอบสนองต่อการเข้ารับการตรวจไม่เหมือนกัน สำหรับเด็กบางคนที่ไม่เคยพบหมอฟันมาก่อนอาจเกิดความวิตกกังวล หมอฟันเด็กจึงต้องมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวอย่างดี
4. สามารถสื่อสารกับคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างตรงจุด รวมถึงแนะนำวิธีการดูแลฟันที่ดีและเข้าใจง่าย
นอกจากต้องใช้คำพูดที่เหมาะกับช่วงวัยของเด็กเพื่อไม่ให้เด็กรู้สึกกลัวและรู้สึกดีกับการรักษาสุขภาพฟันของตัวเองแล้ว หมอฟันเด็กจะต้องมีทักษะการสื่อสารที่เข้าใจง่ายเพื่อแนะนำวิธีการรักษาฟันของลูกให้แก่คุณพ่อคุณแม่อย่างถูกวิธี เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่นำวิธีจากหมอฟันไปสอนลูกน้อยได้โดยที่เด็กไม่รู้สึกถูกบังคับนั่นเอง
5. มีทีมผู้ช่วยที่เข้าใจธรรมชาติของเด็ก
นอกจากมีหมอฟันเด็กที่เข้าใจและรับมือกับพฤติกรรมในการทำฟันของเด็กได้แล้ว ยังต้องมีทีมผู้ช่วยที่ใจเย็นมากๆ และมีความรู้ความเข้าใจในแต่ละขั้นตอนของการทำฟันเพื่อช่วยให้หมอฟันทำงานได้รวดเร็วและไม่ทำให้เด็กรู้สึกกลัวการทำฟันอีกด้วย
6. มีสถานที่เตรียมไว้ให้เด็กเล่นก่อนทำฟัน เพื่อให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย
ถึงจะมีหมอฟันเด็กที่เก่งและใจเย็นแค่ไหน แต่การสร้างบรรยากาศการทำฟันที่เหมาะกับเด็กก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในควรมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีห้องนั่งเล่นหรือโซน Playland ที่มีของเล่นให้เด็กเลือกเล่นมากมาย หรือแม้แต่ห้องทำฟันที่มีเบาะและเครื่องมือที่เป็นตัวการ์ตูนน่ารักๆ เพื่อให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายก่อนและระหว่างทำฟันนั่นเอง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังมองหาคลินิกทำฟันเด็กที่มีหมอฟันเด็กผู้เชี่ยวชาญและมีบรรยากาศการทำฟันที่เหมาะกับลูกน้อย ทางเรา Homey Dental Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและพร้อมบริการทั้ง 3 สาขา เพื่อให้ทุกท่านมั่นใจและเตรียมความพร้อมในการดูแลรักษาฟันของลูกน้อยตั้งแต่ซี่แรกได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดนั่นเองครับ หากท่านไหนสนใจสามารถเข้าไปดูบรรยากาศคลินิกของเราได้ที่นี่เลย
บทความที่น่าสนใจ
- ทันตกรรมสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง?
- คำถามที่พบบ่อยเมื่อต้องพาลูกเข้าคลินิกทำฟันเด็ก
- 7 ข้อพิจารณาในการเลือกคลินิกทำฟันเด็กที่คุณควรรู้
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน