รวมข้อดีของการจัดฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดียิ่งขึ้น
Posted: 21 September , 2022นอกจากเพิ่มความสดใสให้รอยยิ้มสวยดูเป็นธรรมชาติแล้ว การจัดฟันยังช่วยแก้ปัญหาสุขภาพช่องปากในระยะยาวด้วย แล้วรู้หรือไม่ว่าข้อดีของการจัดฟันมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ
การจัดฟันคืออะไร
เป็นวิธีการรักษาปัญหาฟันโดยคุณหมอจะวินิจฉัยและวางแผนการรักษาเพื่อแก้ปัญหาฟันเรียงตัวผิดปกติ, สบฟันผิดปกติ และขากรรไกรมีรูปร่างผิดธรรมชาติที่ส่งผลให้ทำความสะอาดเศษอาหารในช่องปากยากกว่าคนทั่วไป เสี่ยงต่อปัญหาฟันที่อาจเป็นอันตรายในระยะยาว เช่น ฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ เมื่อวางแผนเสร็จคุณหมอจะเคลียร์ช่องปากและติดเครื่องมือจัดฟันเพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามการรักษา การจัดฟันจะช่วยให้คนไข้สบฟันได้ปกติ ส่งผลให้การบดเคี้ยวมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม แถมยังลดโอกาสเกิดปัญหาช่องปากและช่วยให้คนไข้รักษาสุขภาพช่องปากได้ง่ายขึ้นด้วย
ข้อดีของการจัดฟันที่คุณอาจคาดไม่ถึง
1. รูปหน้าเปลี่ยน ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
หากคุณมีปัญหาฟันยื่น, กรามเด่นชัดเกินไป ดูไม่พอดีกับโครงสร้าง เมื่อถอนฟันเพื่อเคลียร์ช่องปากและจัดฟันให้เคลื่อนตัวเข้าที่แล้ว จะทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคลด้วย
2. แก้ปัญหาทานอาหารลำบาก
สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบและเกิดภาวะสบฟันผิดปกติ เมื่อต้องเคี้ยวอาหารอาจทำให้ฟันไปกัดโดนริมฝีปาก, เหงือก หรือกระพุ้งแก้ม ทำให้ไม่กล้าเคี้ยวอาหาร จึงเลือกที่จะเคี้ยวเพียงเล็กน้อยแล้วค่อยกลืน ซึ่งจะทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก
3. ออกเสียงชัดเจนขึ้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันห่าง ทำให้การออกเสียง ส และ ฟ ยาก แต่เมื่อจัดฟันให้เข้าที่แล้วจะทำให้คนไข้ออกเสียงชัดเจนกว่าเดิม
4. เอื้อประโยชน์ต่อการรักษาปัญหาสุขภาพอื่น
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าปัญหาฟันจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนัก จึงเกิดการหลั่งกรดในกระเพาะและทำให้กระเพาะบีบตัวมากขึ้น เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ, อาการปวดหัวบ่อย ๆ ที่เกิดจากปัญหาฟันผุ การจัดฟันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถาวร
ใครบ้างที่ควรจัดฟัน
- ผู้ที่มีขากรรไกรผิดปกติจนหน้าเบี้ยวขั้นรุนแรง
- ผู้ที่มีขากรรไกรยื่นออกมามาก จนหุบริมฝีปากไม่ได้
- ผู้ที่มีขากรรไกรล่างสั้น ทำให้คางสั้นกว่าคนทั่วไป
- ผู้ที่มีสัดส่วนของขากรรไกรบน/ล่าง ไม่เท่ากัน ทำให้สบฟันผิดปกติ
- ผู้ที่มีฟันเรียงตัวผิดปกติและเกิดปัญหาช่องปากระยะยาว
- ผู้ที่ยิ้มแล้วเหงือกโผล่มามากกว่าปกติ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการกลืนอาหารและการหายใจ
ขั้นตอนการจัดฟัน
1. ตรวจสุขภาพช่องปากเบื้องต้น
หมอฟันจะเอ็กซเรย์ช่องปากคนไข้เพื่อดูกระดูกขากรรไกรและลักษณะของฟัน หากพบความผิดปกติ เช่น ฟันผุ, ฟันคุด, ฟันเก ฯลฯ หมอจะรักษาอาการเหล่านี้เพื่อเคลียร์ช่องปากก่อนการจัดฟัน ถ้าหากไม่แก้ปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลทำให้ใช้เวลารักษานานขึ้น แถมยังเสี่ยงต่อปัญหาฟันผุและโรคเหงือกอักเสบตามมา
2. เลือกเครื่องมือจัดฟัน
หลังจากวางแผนการรักษาแล้ว คุณหมอจะแนะนำเครื่องมือจัดฟันแต่ละชนิด ได้แก่ แบบโลหะ, ดามอน, เซรามิก และแบบใส เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษา ทั้งนี้บางคนอาจต้องรักษาเพียงแบบใดแบบหนึ่งเท่านั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาและช่องปากของแต่ละคน ซึ่งการรักษาแต่ละแบบมีเงื่อนไขในการรักษาและการดูแลช่องปากแตกต่างกันไป คุณควรเลือกการรักษาที่เหมาะกับปัญหาช่องปากของคุณและงบที่คุณจ่ายไหวด้วย
3. ติดเครื่องมือจัดฟัน
หลังจากเคลียร์ช่องปากแล้ว หมอฟันจะฉีดยาชาเข้าไปเพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บปวดขณะติดเครื่องมือ แต่จะรู้สึกปวดฟันหลังจากติดเครื่องมือในช่วงสัปดาห์แรก (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 3-5 วัน) แต่อาการปวดจะหายไปเอง ระหว่างที่รู้สึกปวด แนะนำให้ทานยาแก้ปวดฟันบรรเทาอาการและทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำหลังมื้ออาหาร โดยใช้แปรงซอกฟันควบคู่กับแปรงสีฟันเพื่อบรรเทาอาการปวดและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึงอย่างโรคเหงือกอักเสบด้วย
ประเภทของเครื่องมือจัดฟัน
1. จัดฟันแบบโลหะ
หรือ การจัดฟันแบบยางสี เป็นการจัดฟันโดยใช้ยางรัดลวดจัดฟันให้ติดกับแบร็กเก็ต และให้โลหะเงินช่วยดึงฟันไปยังตำแหน่งที่วางแผน ข้อดีของการจัดฟันประเภทนี้อยู่ตรงราคาที่ถูกกว่าการจัดฟันแบบอื่นและไม่ต้องถอดทำความสะอาดบ่อย ๆ เนื่องจากแบร็กเก็ตยึดติดกับฟันไปแล้วจึงถอดเองไม่ได้ ส่วนข้อเสียของการจัดฟันโลหะคือการทำความสะอาดยาก, มีเศษอาหารติดตามซอกฟันง่าย หากความทำสะอาดไม่ดี อาจนำมาสู่โรคเหงือกอักเสบได้ ทางเราแนะนำให้แปรงซอกฟันควบคู่กับแปรงสีฟันด้วย การจัดฟันโลหะจะใช้ระยะเวลารักษาอยู่ที่ 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
2. จัดฟันแบบเซรามิก
เป็นการจัดฟันที่มีรูปแบบเหมือนโลหะ เพียงแต่ใช้เซรามิกใสมาติดบนผิวด้านหน้าฟันและมีสีเหมือนฟัน ยังคงมีแบร็กเก็ตและมียางรัดฟันหรือโอริงสีใสอยู่เหมือนเดิม แต่ลวดก็ยังเป็นสีโลหะ เพื่อปรับทิศทางของฟันให้เคลื่อนไปตามแผนของคุณหมอ การจัดฟันแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นโลหะด้านหน้าฟัน ส่วนระยะเวลารักษาจะอยู่ที่ 2-3 ปี
3. จัดฟันแบบดามอน
เป็นการจัดฟันด้วยเครื่องมือจัดฟันชนิดติดแน่นแบบไม่รัดยาง ของยี่ห้อดามอน ข้อดีคือไม่ต้องใช้ยางยึดติดลวดกับเหล็กจัดฟัน แต่ใช้แบร็กเก็ตเป็นบานล็อคเปิด-ปิด มาแทนที่ และใช้ลวดจัดฟัน Space-age archwires ชนิดพิเศษ คนไข้จึงไม่รู้สึกปวดเหมือนการจัดฟันแบบโลหะ แถมยังทำความสะอาดง่ายกว่า อีกทั้งลดความเสี่ยงต่อการเกิดคราบหินปูนที่ติดบริเวณเครื่องมือ ด้วยความที่ตัวเครื่องมือมีแรงเสียดทานน้อย จึงทำให้ฟันเคลื่อนที่ตามแผนการรักษาเร็วขึ้น และเอื้อต่อการขยายพื้นที่ให้ฟันเรียงตัว คุณหมอจึงไม่ต้องถอนฟันเพื่อหาช่องว่างสำหรับจัดฟันด้วย การจัดฟันแบบดามอนเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาไปหาหมอฟันและไม่อยากเจ็บปวดในช่วงที่ฟันเคลื่อน ใช้ระยะเวลารักษาอยู่ที่ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันและการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล
4. จัดฟันแบบใส
เป็นการจัดฟันโดยใช้เครื่องมือจัดฟันที่ทำจากพลาสติกผิวเรียบใส โดยตัวเครื่องมือถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่แสดงผลผ่านวิดีโอ 3D หลักการทำงานของเครื่องมือจัดฟันใสคือการส่งผ่านแรงชนิดเบาแบบต่อเนื่อง ช่วยให้ฟันเคลื่อนที่ต่อเนื่อง แถมยังสามารถคาดคะเนผลลัพธ์ง่ายกว่าการจัดฟันประเภทอื่น รวมถึงลดอาการระคายเคืองในช่องปาก, สะดวกต่อการถอดทำความสะอาด จึงลดความเสี่ยงต่อโรคฟันผุ และตัวเครื่องมือมีสีเหมือนฟันธรรมชาติ จึงดูไม่ออกเลยว่ากำลังจัดฟันอยู่ เหมาะสำหรับใครที่ไม่อยากให้คนอื่นเห็นเครื่องมือ, ผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเกจำนวนมาก และผู้ที่ไม่สะดวกมาหาหมอฟันบ่อย ๆ ทั้งนี้คนไข้จะต้องเปลี่ยนชุดเครื่องมือทุก ๆ 2 สัปดาห์ การจัดฟันใสมีทั้งหมด 4 ประเภท
4.1 Invisalign Express
- มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 7 ชิ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเล็กน้อย
- สามารถเลือกจัดฟันเพียงด้านบนหรือล่างได้
- ใช้เวลาจัดฟันประมาณ 3 เดือน
4.2 Invisalign Lite
- มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 14 ชิ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเก ฟันซ้อน
- ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน
4.3 Invisalign Full (Moderate)
- มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 26 ชิ้น
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันมาก จึงต้องขยับฟันหลายซี่
- ใช้เวลาประมาณ 4 เดือน – 2 ปี
4.4 Invisalign Full (Comprehensive)
- มีอุปกรณ์จัดฟันทั้งหมด 99 ชิ้น
- เหมาะสำหรับปัญหาฟันทุกรูปแบบ
- ใช้เวลาประมาณ 1-4 ปี
ข้อควรรู้ก่อนจัดฟัน
- ค่าใช้จ่ายในการจัดฟันค่อนข้างสูงหากเทียบกับการรักษาฟันประเภทอื่น เนื่องจากมีขั้นตอนและเครื่องมือรักษาค่อนข้างมาก ตั้งแต่ช่วงเคลียร์ช่องปากจนถึงติดเครื่องมือจัดฟัน
- ใช้ระยะเวลารักษาค่อนข้างนาน (2-3 ปี) ดังนั้นคุณควรวางแผนให้ดีก่อนจัดฟัน เผื่อเกิดเหตุระหว่างการรักษา เช่น ย้ายที่อยู่อาศัย, ไปเรียนต่อต่างประเทศ, ย้ายที่ทำงาน
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่เหนียวหรือแข็งเกินไป เพราะอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันเสียหาย
- คุณต้องระมัดระวังในการดูแลสุขภาพช่องปากให้มาก เนื่องจากมีโอกาสที่เศษอาหารจะติดอยู่ตามซอกฟันและอุปกรณ์จัดฟันง่ายขึ้น (กรณีจัดฟันแบบเหล็ก, ดามอน และเซรามิก)
- คุณควรเตรียมใจรับมือกับอาการปวดหลังจากจัดฟัน เนื่องจากแรงดันฟันจะไปกดหลอดเลือด เพื่อให้ฟันไปยังตำแหน่งที่คุณหมอวางแผนรักษาไว้
หลังการจัดฟันควรดูแลสุขภาพช่องปากอย่างไรดี
- ทำความสะอาดช่องปากด้วยแปรงสีฟันและแปรงซอกฟันเป็นประจำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชม.
- หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กทุกครั้งที่ทาน ป้องกันไม่ให้อาหารกระทบเหล็กดัดจนเกิดอาการเหงือกอักเสบและป้องกันไม่ให้เศษอาหารติดกับเหล็กจนทำความสะอาดยากซึ่งก่อให้เกิดกลิ่นปาก
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น กัดฟัน, กัดเล็บ, ใช้ลิ้นดุนฟัน ป้องกันไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวผิดจากแผน
- หากรู้สึกปวดหรือเสียวฟันมาก แนะนำให้ทานยาพาราเซตามอล หรือพอนสแตน เพื่อบรรรเทาอาการปวด
- หากพบว่ามีเหล็กทิ่มกระพุ้งแก้ม แนะนำให้ใช้สีผึ้งทาเคลือบเหล็กเพื่อลดการเสียดสี แล้วรีบไปพบหมอฟันเพื่อแก้ไขปัญหาเหล็กทิ่ม
- พบหมอฟันตามนัดหมายทุกครั้งเพื่อให้คุณหมอดูแลเครื่องมือให้ใช้งานได้ดีจนกว่าจะถึงเวลาถอด
เรทราคาจัดฟันจาก Homey Dental Clinic
- จัดฟันแบบโลหะ ราคาอยู่ที่ 45,000 – 50,000 บาท
- จัดฟันแบบดามอน ราคาอยู่ที่ 79,000 – 85,000 บาท
- จัดฟันแบบใส Invisalign Express ราคาอยู่ที่ 79,000 บาท
- จัดฟันแบบใส Invisalign Lite ราคาอยู่ที่ 129,000 บาท
- จัดฟันแบบใส Invisalign Full (Moderate) ราคาอยู่ที่ 159,000 บาท
- จัดฟันแบบใส Invisalign Full (Comprehensive) ราคาอยู่ที่ 179,000 บาท
- ค่ารีเทนเนอร์ ราคาชิ้นละ 3,000
- ค่ารีเทนเนอร์ 2 ชิ้น (บน – ล่าง) ราคาชิ้นละ 5,000 บาท
บทความที่น่าสนใจ
- แนะนำอาหารบำรุงฟันสำหรับเด็ก
- สอนลูกแปรงฟันถูกวิธี มีชัยไปกว่าครึ่ง
- Homey Kids Toothpaste ทางเลือกใหม่ในการเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็ก
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน