เลือกแปรงสีฟันไฟฟ้าอย่างไรให้ตรงใจลูกที่สุด
Posted: 1 March , 2022หลายคนอาจสงสัยว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าแตกต่างจากแปรงสีฟันปกติอย่างไร วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับแปรงชนิดนี้แบบทุกซอกทุกมุมเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกซื้อแปรงสีฟันให้ถูกใจลูกน้อยมากที่สุด
แปรงสีฟันไฟฟ้าคืออะไร
เป็นแปรงสีฟันที่ถูกออกแบบให้แปรงฟันอัตโนมัติเพียงแค่จับแปรงให้ได้มุม 45 องศาเท่านั้น มีทั้งระบบแจ้งเตือน ระบบจับเวลา หรือระบบควบคุมความดันในการแปรง ซึ่งจะได้ผลลัพธ์การแปรงที่ดีกว่าเพราะช่วยขจัดคราบหินปูนและป้องกันโรคเหงือกอักเสบได้ดีกว่าแปรงสีฟันธรรมดาด้วย
ประเภทของแปรงสีฟันไฟฟ้า
1. แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบสั่นหรือระบบหมุน
- เน้นเรื่องประสิทธิภาพการเข้าซอกลึกทั่วบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด เช่น ด้านหลังของฟันกราม
- เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า เพราะให้ความรู้สึกนุ่มนวลขณะแปรงมากกว่าแปรงสีฟันทั่วไปไม่มาก
- ราคาถูกกว่าระบบโซนิคและระบบอัลตร้าโซนิค
2. แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบโซนิค
- ทำงานคล้ายกับระบบสั่นแต่มีพลังการสั่นสะเทือนสูง (ความเร็วในการหมุนประมาณ 24,000 – 48,000 ครั้ง/นาที)
- เสียงของตัวเครื่องทำงานเบากว่า และรัศมีการแกว่งดีกว่าระบบสั่น
3. แปรงสีฟันไฟฟ้าระบบอัลตร้าโซนิค
- ใช้คลื่นความถี่สูง (อัลตร้าซาวด์) ในการสั่นของเครื่อง (ความเร็วในการหมุนประมาณ 2,400,000 ครั้ง/นาที)
- ไม่ต้องออกแรงกดแปรงมากนัก แต่สามารถขจัดคราบบนตัวฟันและซอกเหงือกให้สะอาดได้ดี
- ราคาสูงกว่าระบบสั่นและระบบโซนิค
ข้อดี-ข้อเสียของแปรงสีฟันไฟฟ้า
- ลดปัญหาเหงือกร่นจากการแปรงฟันแรงเกินไป
- ช่วยจับเวลาในการแปรงฟันไม่ให้น้อยหรือมากเกินไป
- ช่วยลดคราบหินปูตามซอกฟันได้ดีกว่าแปรงสีฟันทั่วไป
- แต่มีราคาค่อนข้างสูงหากเปรียบกับแปรงสีฟันทั่วไป
- ต้องชาร์จไฟหรือใช้ถ่านเป็นตัวให้พลังงาน
วิธีเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้า
1. ขนาดหัวแปรง
- ควรมีความกว้างประมาณ 0.5-1 นิ้ว และความยาวประมาณ 1 นิ้ว
2. ขนแปรง
- ขนแปรงมีให้เลือกหลายระดับตั้งแต่แบบอ่อนนุ่ม นุ่มพิเศษ หรือแบบกลาง
3. ด้ามจับ
- ควรจับได้ถนัดมือไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ไม่เปราะหักง่าย
4. มีฟังก์ชั่นพิเศษ
- เช่น ขึ้นแจ้งเตือนหากเราแปรงฟันแรงเกินไป
- สามารถเลือกระดับความแรงของแปรงได้หลากหลายโหมด
- แจ้งเตือนทุก 30 วินาที เพื่อให้เราเปลี่ยนแปรงไปแปรงส่วนอื่น
5. เลือกจากจำนวนรอบการสั่นหรือหมุนต่อนาที
- ควรเลือกการสั่นที่น้อยกว่า 8,000 ครั้ง/นาที เพื่อไม่ไปทำร้ายฟันและเหงือกที่บอบบางนั่นเอง
วิธีใช้แปรงสีฟันไฟฟ้า
- ถือแปรงระดับ 45 องศาตามแนวฟัน เริ่มแปรงจากฟันด้านนอกโดยให้ปลายขนแปรงไปอยู่ตรงขอบเหงือก ขยับแปรงไปในแนวหน้าหลัง ปัดขนแปรงขึ้นลงสำหรับฟันด้านบน
- ขยับไปแปรงต่อที่ฟันด้านใน โดยวางขนแปรงบริเวณขอบเหงือกระดับ 45 องศาตามแนวฟันเหมือนกับแปรงฟันด้านนอก จากนั้นขยับแปรงไปมาให้ทั่ว
- หลังจากแปรงฟันด้านในครบแล้วให้แปรงฟันสำหรับบดเคี้ยวต่อ โดยแปรงฟันขยับไปมาหน้าหลังทั้งฟันบนและฟันล่าง
- วางขนแปรงไว้บริเวณฟันหน้าด้านในในแนวตั้ง ใช้ปลายแปรงสีฟันแปรงด้านหลังของฟันแต่ละซี่ ขยับไปมาให้ทั่ว รวมถึงแปรงลิ้นด้วย
วิธีดูแลช่องปากเพิ่มเติมนอกเหนือจากการแปรงฟัน
- ใช้ไหมขัดฟันหลังการแปรงฟันเสมอ
- ใช้น้ำยาบ้วนปากหลังการใช้ไหมขัดฟัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่แข็งหรือรสจัดเกินไป ป้องกันการสึกของฟัน
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อปัญหาฟัน เช่น นอนกัดฟัน ใช้ลิ้นดุนฟัน
- พบหมอฟันเด็กทุกๆ 6 เดือน
หวังว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าให้เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด สำหรับผู้ปกครองท่านใดมีข้อสงสัยหรือต้องการขอรับบริการทางทันตกรรมเพิ่มเติม ทางเรา Homey Dental Clinic ยินดีให้คำปรึกษาและบริการด้วยใจ เพื่อให้ท่านและบุตรหลานรู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ใช้บริการจากเรา ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจและดูแลสุขภาพฟันของตัวเองมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
บทความที่น่าสนใจ
- แปรงซอกฟัน: แปรงสำหรับคนจัดฟันที่ช่วยให้ช่องปากสะอาดขึ้น
- ควรให้เด็กใช้ไหมขัดฟันได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่
- เลือกน้ำยาบ้วนปากเด็กอย่างไรให้ลูกน้อยแฮปปี้
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน