ไม่อยากให้ลูกฟันผุ ห้ามทำพฤติกรรมเสี่ยงต่อไปนี้
Posted: 19 July , 2022คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าบางพฤติกรรมที่ทำอยู่ประจำอาจส่งผลเสียทำให้เด็กฟันผุ วันนี้เราจะมาพูดถึงพฤติกรรมเสี่ยงและวิธีแก้ไขกันครับ
พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เด็กฟันผุ
1. รับประทานอาหารรสจัด
หนึ่งในศัตรูร้ายกาจที่สร้างปัญหาในช่องปากลูกน้อยได้มากที่สุดก็คืออาหารที่ทานเข้าไปนั่นเอง โดยเฉพาะอาหารที่มีรสหวานจัดอย่างลูกอม และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่างน้ำอัดลมและน้ำหวาน ซึ่งเป็นของโปรดของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าแป้งและน้ำตาลจากอาหารเหล่านี้กลับกลายเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียในช่องปากซึ่งทำปฏิกิริยากับน้ำตาล จนเกิดเป็นกรดทำลายผิวฟัน
นอกจากนี้ยังมีอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัดอีกด้วย ไม่ว่าจะเปรี้ยวจากธรรมชาติหรือเปรี้ยวจากการแต่งรสด้วยสารสังเคราะห์ก็ตาม ล้วนมีฤทธิ์เป็นกรดและทำให้สารเคลือบฟันบางลง เกิดปัญหาฟันผุตามมา
2. ทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ
โดยทั่วไปคุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ลูกทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือช่วงหลังทานอาหารมื้อเช้า และก่อนเข้านอน แต่ที่จริงแล้วขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากของเด็กด้วยว่าควรแปรงวันละ 2 ครั้งหรือไม่ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีปัญหาสุขภาพช่องปากไม่เหมือนกัน หากพบว่าลูกน้อยมีปัญหาภายในช่องปาก เช่น ฟันซ้อน, ฟันห่าง, ฟันเก ฯลฯ ควรหมั่นสังเกตและสอนให้ลูกทำความสะอาดมากกว่า 2 ครั้งจะเป็นการดีเนื่องจากฟันเหล่านี้ทำความสะอาดยากกว่าฟันที่เรียงกันแบบธรรมดา แต่ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ของเด็กมีฟันผุก็คือการทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟันน้อยกว่าวันละ 2 ครั้ง หรือไม่แปรงฟันเลยใน 1 วัน, การใช้น้ำยาบ้วนปากหรือไหมขัดฟันแทนการใช้แปรงสีฟันทำความสะอาดช่องปาก รวมถึงการสอนแปรงฟันไม่ถูกวิธีอีกด้วย โดยการแปรงฟันที่ถูกต้องควรปฏิบัติตามหลักการง่าย ๆ ต่อไปนี้
- วางแปรงสีฟันลงบนฟันหน้าในแนวนอน ทำมุม 45 องศา ระหว่างรอยต่อของเหงือกและฟัน
- ขยับแปรงสีฟันไปมาสั้น ๆ ขยับอย่างเบามือตามแนวฟันและเหงือก เริ่มแปรงจากด้านนอกไปด้านในจนครบทั้งฟันบนและล่าง อย่างน้อย 10 ครั้ง
- จากนั้นจึงแปรงฟันบนแล้วปัดลง ส่วนแปรงฟันล่างให้ปัดขึ้น แปรงจากด้านนอกไปด้านใน อย่างน้อย 10 ครั้ง
- แปรงลิ้นให้ทั่วอย่างน้อย 10 ครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียบนลิ้น
- เมื่อแปรงลิ้นเสร็จ ทางที่ดีไม่ควรบ้วนปากด้วยน้ำตาม เพื่อให้ฟลูออไรด์ยังคงอยู่ในปาก ซึ่งเรียกวิธีนี้ว่า การแปรงฟันแห้ง แต่หากฝึกแปรงแห้งในช่วงแรกอาจทำให้เด็กรู้สึกไม่คุ้นชิน แนะนำให้เด็กบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดปริมาณน้อยมาก ๆ เพียง 1 ครั้ง และล้างริมฝีปากที่มีฟองติดออก
3. ใช้ฟันผิดวิธี
กรณีที่เป็นเด็กเล็กอาจใช้ฟันเพื่อกัดสิ่งต่างๆ เช่น กัดน้ำแข็ง, กัดเล็บตัวเอง, ใช้ฟันเปิดฝาขวด หรือแม้แต่การแปรงฟันแรงเกินไปก็ตาม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตและคอยห้ามปรามไม่ให้ลูกทำพฤติกรรมดังกล่าวซึ่งอาจมีผลทำให้ฟันหัก, ฟันโยก หรือฟันผุได้นั่นเอง
4. พฤติกรรมเสี่ยงจากความเคยชิน
คุณพ่อคุณแม่เคยเห็นมั้ยครับว่าลูกน้อยชอบใช้ลิ้นดุนฟันหรือชอบกัดฟันทั้งที่ไม่ได้ทานอาหาร แม้กระทั่งตอนนอนก็ตาม อาการเหล่านี้เกิดจากฟันกรามบนและล่างขบเข้าหากัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงวัยเด็กเล็กไปจนถึงอายุ 6 ขวบ อาการเหล่านี้ก็จะหายไปเอง แต่หากไม่หายและปล่อยทิ้งไว้โดยไม่เข้ารับการรักษาอาจส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามหดตัวและทำให้ฟันสึก นอกจากนี้การกัดฟันยังเกิดจากการตอบสนองต่อความเจ็บปวด หากรู้สึกปวดส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายก็จะกัดฟันเพื่อระงับความเจ็บปวด, รู้สึกโกรธ, รู้สึกเครียด หรือแม้กระทั่งทานยาบางชนิดที่มีผลทำให้เด็กกัดฟันขณะนอนหลับรวมถึงการปล่อยให้ลูกนอนหลับคาขวดนมก็มีผลให้ลูกฟันผุง่ายด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญและหมั่นสังเกตพฤติกรรมการกัดฟันของลูกน้อยด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนอนด้วยกันกับลูก, ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเด็กเอง เช่น ปวดกราม, ปวดหัว หรือรู้สึกเจ็บฟันขณะเคี้ยวอาหาร รวมถึงเด็กมีภาวะโกรธหรือเครียดในวันนั้น ๆ หรือไม่ หากมีปัญหาดังกล่าวแนะนำให้พาลูกพบหมอฟันเด็กเพื่อให้คุณหมอสวมเฝือกสบฟันจนกว่าอาการจะดีขึ้น หรือจนกว่าฟันน้ำนมจะหลุดออกหมด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของคุณหมอด้วย
วิธีป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากฟันผุ
- ให้ลูกแปรงฟันเป็นประจำอย่างน้อย 2 ครั้ง/วัน หรือแปรงหลังมื้ออาหารอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชม. เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดกับซอกฟันให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ควรใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากควบคู่กันไปด้วย
- แปรงฟันเบา ๆ แต่ถูกวิธี และเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มแทนแปรงสีฟันขนแข็ง
- งดทานอาหารที่เสี่ยงต่อฟันผุ เช่น ลูกอม น้ำหวาน หากลูกอยู่ในขั้นติดหนัก ให้ใช้วิธีลดปริมาณหรือตั้งเงื่อนไขในการทานอาหารเหล่านี้จนกว่าลูกจะเลิกขาด
- งดใช้ฟันในทางที่ผิด และใช้เฝือกสบฟันป้องกันการนอนกัดฟัน
- พบหมอฟันเด็กอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือตามนัดหมายหากเด็กมีปัญหาภายในช่องปาก
บทความที่น่าสนใจ
- โรคฟันผุในเด็ก: ปัญหาสำคัญที่ทำร้ายเด็กโดยไม่รู้ตัว
- อย่าปล่อยให้ลูกฟันผุทั้งปาก จนรักษายากเกินเยียวยา
- Homey Kids Toothpaste ทางเลือกใหม่ในการเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็ก
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน