แนะนำวิธีดูแลฟันเด็กให้ฟันน้ำนมอยู่กับลูกไปอีกนาน ๆ
Posted: 20 August , 2022แม้ว่าฟันน้ำนมจะไม่ใช่ฟันที่ใช้งานถาวร แต่ก็เป็นฟันที่มีอายุการใช้งานมากถึง 12 ปี อีกทั้งเป็นฐานให้ฟันแท้ที่ใช้งานถาวรงอกขึ้นมาด้วย ดังนั้นเราจะมาแนะนำวิธีดูแลฟันเด็กให้อยู่กับลูกไปอีกนาน ๆ เพื่อให้ฟันแท้ที่จะงอกขึ้นมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
วิธีดูแลฟันเด็กให้ฟันน้ำนมอยู่กับลูกไปอีกนาน ๆ
ตามธรรมชาติแล้วฟันน้ำนมเด็กจะหลุดตั้งแต่อายุ 6-12 ปี จากนั้นจะมีฟันแท้ทยอยงอกขึ้นมาแทนที่จนครบเมื่ออายุ 18 ปี แต่ช่วงที่ฟันแท้ยังไม่ขึ้นมาอาจมีช่วงที่ฟันน้ำนมจะหลุดได้เนื่องจากฟันน้ำนมแข็งแรงน้อยกว่าฟันแท้ บวกกับช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุง่ายกว่า จึงมีโอกาสสูญเสียฟันน้ำนมง่ายกว่าด้วย นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะโตเร็วกว่าปกติได้ด้วยเช่นกัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามการดูแลฟันน้ำนมก็เป็นเรื่องจำเป็น คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกดูแลฟันน้ำนมได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
.
1. ทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี
แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือกรณีแปรงให้ลูก เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไป และกรณีสอนให้ลูกแปรงเอง เหมาะกับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป ดังนี้
.
1.1 กรณีแปรงให้ลูก
คุณพ่อคุณแม่จัดท่านั่งหรือนอนให้ลูกและตัวคุณพ่อคุณแม่เองรู้สึกสบาย ๆ สามารถอุ้มหรือจับนอนตักสะดวก จากนั้นจึงบีบยาสีฟันเล็กน้อย ค่อย ๆ แปรงอย่างเบามือ ทั้งนี้ไม่ควรใช้เวลาแปรงนานไป อาจทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดเวลาแปรงฟันครั้งต่อไป
.
1.2 กรณีสอนให้ลูกแปรงเอง
คุณพ่อคุณแม่ยืนข้างลูก จากนั้นยืนตรงหน้ากระจกเพื่อสำรวจตัวเองขณะแปรงฟัน จากนั้นสอนลูกว่าควรแปรงส่วนไหนก่อน-หลัง หรือช่วยจับแปรงสีฟันในช่วงแรก การแปรงฟันไปพร้อมกับลูกจะช่วยให้ลูกเข้าใจหลักการแปรงฟันที่ถูกต้องได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
.
วิธีการแปรงฟันสำหรับเด็ก
- วางแปรงลงบนฟันหน้าในแนวนอน ทำมุม 45 องศา ระหว่างรอยต่อของเหงือกและฟัน
- ขยับแปรงสีฟันไป-มาสั้น ๆ ขยับอย่างเบามือไปตามแนวเหงือกและฟัน เริ่มแปรงจากด้านนอกเข้าไปด้านในอย่างน้อย 10 ครั้ง จนกว่าจะครบทั้งฟันบนและล่าง
- ขยับแปรงไปยังฟันบนแล้วปัดลง ส่วนฟันล่างให้ปัดขึ้นอย่างน้อย 10 ครั้ง จากด้านนอกไปด้านใน
- แปรงลิ้นให้ทั่วอย่างน้อย 10 ครั้ง เพื่อกำจัดแบคทีเรียบนลิ้น
- เสร็จแล้วบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ฟลูออไรด์ยังคงอยู่ในปาก
.
2. ทานอาหารบำรุงฟันสำหรับเด็ก
การเลือกอาหารให้ลูกทานได้ตรงตามหลักโภชนาการ นอกจากจะช่วยให้ลูกมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้วยังช่วยบำรุงให้สุขภาพฟันดีขึ้นอีกด้วย โดยสารอาหารที่เด็กควรได้รับมีดังนี้
.
2.1 แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ทำหน้าที่เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง หากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ ร่างกายอาจต้องดึงแคลเซียมที่สะสมไว้ในกระดูกมาใช้ ทำให้กระดูกเปราะง่าย อาหารที่มีแคลเซียม ได้แก่ นมวัว, ถั่วเหลือง, ชีส, โยเกิร์ต
.
2.2 วิตามิน A
ทำหน้าที่สร้างเมือกให้เยื่อบุผิวในช่องปาก ทำให้น้ำลายไหลเวียนได้ดีและบำรุงเหงือกให้แข็งแรง อาหารที่มีวิตามิน A ได้แก่ ไข่แดง, น้ำมันตับปลา, ตับไก่, ตับวัว และผักใบเขียวสีเข้ม
.
2.3 วิตามิน C
ทำหน้าที่สร้างเนื้อเยื่อ รักษาโครงสร้างเหงือกและส่วนอื่นในช่องปาก หากขาดวิตามิน C อาจทำให้เหงือกอักเสบ ภาวะเลือดออกตามไรฟัน รวมถึงโรคลักปิดลักเปิดด้วย อาหารที่มีวิตามิน C ได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว (ส้ม สัปปะรด) ฝรั่ง และสตรอว์เบอร์รี ส่วนผักสีเขียวเข้ม ได้แก่ ผักโขม และบรอกโคลี
.
2.4 เส้นใย
ทำหน้าที่ขัดฟันและกำจัดคราบแบคทีเรียตามผิวฟันออกให้หมด และช่วยให้ต่อมน้ำลายผลิตน้ำลายเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกในช่องปาก อาหารที่มีเส้นใยอาหารมี 3 ประเภท ได้แก่
- อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง เช่น แคร์รอต, ผักหวาน, ถั่วลิสง
- อาหารที่มีเส้นใยปานกลาง เช่น ข้าวโพดต้ม, คะน้า, ตำลึง
- อาหารที่มีเส้นใยอาหารน้อย เช่น ข้าวขาว, กล้วย, ส้ม, องุ่น
.
2.5 คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน
ทำหน้าที่ลดคราบหินปูน อันเป็นต้นตอของฟันผุ อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ อาหารจำพวกแป้งที่ไม่ผ่านกรรมวิธีหรือขัดสี เช่น ข้าวกล้อง และข้าวโอ๊ต ส่วนผักผลไม้บางชนิด เช่น ฟักทอง, กล้วย และแตงโม ส่วนธัญพืช เช่น ถั่วแดง และมันเทศ
.
2.6 น้ำเปล่า
น้ำเปล่ามีสารฟลูออไรด์ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้สารเคลือบฟัน ลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ในช่องปาก จึงควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทั้งนี้มีการแบ่งปริมาณการดื่มตามช่วงวัย ได้แก่
- อายุ 1-8 ปี ปริมาณ 1,000-2,100 มิลลิลิตร
- อายุ 9-18 ปี ปริมาณ 1,700-3,375 มิลลิลิตร (ผู้ชาย)
- อายุ 9-18 ปี ปริมาณ 1,600-2,775 มิลลิลิตร (ผู้หญิง)
.
3. รักษาฟันน้ำนมทันทีที่หัก
ฟันน้ำนมเด็กจะเริ่มหลุดตั้งแต่อายุ 6-12 ปี เพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนจนครบอายุ 18 ปี แต่ในช่วงที่ฟันแท้ยังไม่ขึ้นมา ฟันน้ำนมอาจเสี่ยงที่จะแตกหัก เนื่องจากเป็นชุดฟันที่มีสารเคลือบฟันแข็งแรงน้อย และช่วงวัยเด็กเป็นช่วงที่เกิดอุบัติเหตุง่ายกว่า นอกจากนี้อาจเกิดจากภาวะโตเร็วกว่าปกติด้วย
.
แต่หากฟันน้ำนมหักก่อนวัยอันเนื่องมาจากพฤติกรรมเสี่ยง เช่น เล่นกีฬาที่ต้องปะทะ, เกิดอุบัติเหตุโดยไม่ทันตั้งตัว, การดูแลสุขภาพช่องปากไม่ดีเท่าที่ควรจนเกิดฟันผุ หรือแม้แต่พฤติกรรมที่เกิดจากความเคยชินอย่างการใช้ลิ้นดันฟันและนอนกัดฟัน อาจต้องรีบรักษาเพื่อไม่ให้ฟันแท้ที่กำลังจะงอกขึ้นมามีปัญหาตามมาในอนาคต ปัจจุบันมีวิธีการรักษาแบ่งเป็น 2 กรณี ได้แก่
.
3.1 ใช้กาวต่อฟันที่หัก
กรณีนี้เหมาะสำหรับเด็กที่ฟันหักจากอุบัติเหตุและคุณพ่อคุณแม่สามารถเก็บชิ้นส่วนฟันมาให้คุณหมอต่อด้วยกาวได้ทันเวลา (ไม่ควรเกิน 2 ชม) แต่หากไปไม่ทันเวลา คุณหมออาจซ่อมแซมโดยการอุดหรือครอบฟัน
.
3.2 การอุดฟัน
คุณหมอจะเอาเนื้อฟันที่ผุออกและทำความสะอาด จากนั้นค่อยเติมวัสดุอุดฟันลงไปเพื่อรักษาฟันที่ถูกทำลายจากปัญหาฟันผุให้กลับมาใช้งานได้และมีรูปทรงดังเดิม โดยมีวัสดุให้เลือก ได้แก่ คอมโพสิตเรซิน วัสดุอมัลกัม และวัสดุกลาสไอโอโนเมอร์
รักษาฟันน้ำนมให้อยู่ได้นานกว่าที่เคยด้วยการอุดฟันน้ำนม
.
4. รักษารากฟันน้ำนม
หากลูกน้อยของคุณละเลยต่อการดูแลสุขภาพช่องปากจนมีอาการปวดฟัน, เหงือกอักเสบ และตุ่มหนองตามมา อาจต้องให้หมอฟันรักษาด้วยการรักษารากฟันน้ำนม คุณหมอจะกำจัดโพรงประสาทฟัน หรือเนื้อเยื่อฟันที่อักเสบ เพื่อรักษาฟันน้ำนมให้ใช้งานได้ตามปกติจนกว่าฟันแท้จะงอกขึ้นมา จากนั้นค่อยครอบฟันน้ำนมเพื่อให้เด็กไม่รู้สึกปวดฟันอีก การรักษารากฟันน้ำนมมี 2 แบบ ได้แก่ การรักษารากฟันน้ำนมแบบบางส่วน เหมาะสำหรับฟันที่ติดเชื้ออยู่ที่ส่วนของโพรงประสาทฟัน ส่วนการรักษารากฟันน้ำนมแบบทั้งหมด เหมาะสำหรับฟันที่ติดเชื้อลุกลามไปถึงคลองรากฟัน ทำให้รู้สึกปวดฟันก่อนนอนหรือปวดกลางดึก
ดูแลฟันน้ำนมให้แข็งแรงได้ด้วยการรักษารากฟันน้ำนม
.
บทความที่น่าสนใจ
- โรคฟันผุในเด็ก: ปัญหาสำคัญที่ทำร้ายเด็กโดยไม่รู้ตัว
- อย่าปล่อยให้ลูกฟันผุทั้งปาก จนรักษายากเกินเยียวยา
- Homey Kids Toothpaste ทางเลือกใหม่ในการเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็ก
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน