12 ความเชื่อเรื่องฟันที่ผิด หากเข้าใจแบบนี้อยู่ต้องรีบแก้โดยด่วน!!
Posted: 1 March , 2022คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจมีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพฟันมาตั้งแต่เด็กหลายๆ อย่าง ซึ่งบางอย่างก็ผิดจนไม่น่าให้อภัยเพราะอาจทำให้สูญเสียโอกาสที่ดีในการรักษาฟันได้ วันนี้เราจะมาพูดถึง 12 ความเชื่อผิดๆ ที่ควรทำความเข้าใจให้ถูกต้องเพื่อให้ตัวเราหรือลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการดูแลฟันมากขึ้น
12 ความเชื่อเรื่องฟันที่ผิด หากเข้าใจแบบนี้อยู่ต้องรีบแก้โดยด่วน!!
1. ไม่ต้องดูแลฟันน้ำนมดีมาก เพราะเดี๋ยวก็หลุดแล้ว
ข้อแรกนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิดและน่ากลัวมาก เพราะฟันน้ำนมเป็นฟันพื้นฐานที่ใช้งานในขณะที่ฟันแท้ยังไม่ขึ้นมา แม้จะใช้งานชั่วคราวแต่อายุการใช้งานของฟันน้ำนมนั้นเริ่มตั้งแต่อายุ 6 เดือนไปจนถึงประมาณ 6 ปี ซึ่งลูกน้อยจำเป็นต้องใช้ฟันน้ำนมเพื่อบดเคี้ยวอาหารและพูดจาสื่อสาร หากไม่ดูแลและปล่อยให้ฟันผุมากเกินไป อาจเกิดปัญหาช่องปากอื่นๆ ตามมาจนอาจสูญเสียฟัน ส่งผลให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมที่ผุเรียงตัวผิดจากปกติ เกิดเป็นฟันเก ฟันซ้อน ซึ่งทำความสะอาดยากขึ้นในอนาคต
2. เมื่อฟันหักหรือหลุดออกจากปาก ให้รีบโยนขึ้นบนหลังคาบ้านทันที
มาถึงข้อสองก็น่าปวดหัวไม่แพ้กัน จำไว้เลยนะครับว่าเมื่อเกิดฟันหักหรือฟันหลุดจากอุบัติเหตุไม่ควรโยนฟันซี่นั้นทิ้งไป แต่ควรรักษาฟันซี่นั้นไว้โดยการล้างด้วยน้ำสะอาดแล้วแช่น้ำไว้ จากนั้นจึงรีบนำไปให้หมอฟันเด็กโดยเร็วที่สุดเพื่อต่อฟันที่หักให้กลับเป็นปกติ เพราะถ้าหากทิ้งฟันซี่นั้นไปอาจต้องรักษาฟันซี่ที่สูญเสียไปด้วยการอุดฟันหรือครอบฟันซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามมา
3. อมเกลือช่วยรักษาฟันผุได้
ถึงแม้เกลือจะมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน แต่การรักษาฟันผุนั้นจะต้องได้รับการรักษาจากหมอฟันเด็กเท่านั้น โดยจะกำจัดส่วนที่ผุแล้วอุดหรือบูรณะฟันในส่วนที่เสียไปด้วยวัสดุอุดฟันชนิดต่างๆ แต่หากเนื้อฟันถูกทำลายมากไปอาจต้องครอบฟัน รักษารากฟัน หรือถอนฟันตามอาการ
4. ใช้มะนาวขัดฟัน ช่วยให้ฟันขาวขึ้นแข็งแรงขึ้น
ถึงแม้น้ำมะนาวจะทำหน้าที่เหมือนสารฟอกขาวแต่เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรด จึงละลายแคลเซียมออกจากผิวฟันและระคายเคืองต่อเหงือก ทำให้เกิดเหงือกอักเสบและโรคฟันผุตามมาได้ ทางที่ดีควรใช้ยาสีฟันที่มีสารฟลูออไรด์ในการทำความสะอาดฟันและไปขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน จะช่วยรักษาฟันให้ขาวขึ้นได้ดีกว่า แต่หากเลี่ยงไม่ได้ก็ไม่ควรใช้น้ำมะนาวเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
5. ไม่ควรขูดหินปูนบ่อยเพราะจะทำให้ฟันโยกหรือฟันห่าง
ตรงกันข้ามเลยครับ เพราะการขูดหินปูนเป็นการทำความสะอาดช่องปากไม่ให้เกิดคราบหินปูนตามซอกฟัน ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่เป็นอันตรายต่อฟันเราแม้แต่น้อย สำหรับใครที่มีหินปูนเกาะอยู่เยอะมากแล้วขูดหินปูนออกอาจรู้สึกว่าฟันโยกหรือฟันห่าง ที่จริงแล้วมันคือความรู้สึกของฟันโล่งเนื่องจากไม่มีเศษอาหารหรือหินปูนมาเกาะตามซอกฟันนั่นเอง และทางที่ดีควรขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือนเพื่อรักษาช่องปากไม่มีให้หินปูนมากวนใจ
6. ยิ่งแปรงขนแข็งยิ่งทำความสะอาดฟันได้ดี
ข้อนี้เป็นหนึ่งในความคิดที่อันตรายต่อสุขภาพเหงือกและฟันเป็นอย่างมาก เพราะการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันที่แข็งเกินไปอาจระคายเคืองต่อเหงือกจนเหงือกอักเสบ รวมถึงทำลายเคลือบฟันง่ายขึ้น ดังนั้นควรเลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่มเพื่อถนอมสุขภาพเหงือกของเรา ไม่ให้เป็นเหงือกร่นหรืออักเสบตามมา และอย่าลืมเปลี่ยนแปรงสีฟันเป็นประจำทุก 3-4 เดือน
7. ใช้ไม้จิ้มฟันหลังจากทานอาหาร
รู้หรือไม่ว่าไม้จิ้มฟันสามารถทำร้ายเหงือกจนอาจเป็นเหงือกร่นได้ง่ายพอๆ กับการใช้แปรงสีฟันที่แข็งเกินไปด้วย คำแนะนำในการจัดการเศษอาหารที่ดีที่สุดก็คือการแปรงฟันทุกครั้งหลังมื้ออาหาร ควบคู่กับการใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดตามซอกฟันที่ไม่สามารถเอาออกได้ด้วยแปรงสีฟันนั่นเอง
8. ยิ่งฟลูออไรด์เยอะ ฟันยิ่งแข็งแรง
จริงอยู่ว่าสารฟลูออไรด์มีผลทำให้สุขภาพฟันแข็งแรงขึ้น หากแต่ต้องใช้ในปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น หากได้รับในปริมาณที่มากไปส่งผลให้เกิดภาวะฟันตกกระ ซึ่งเกิดจากฟลูออไรด์จำนวนมากขัดขวางการสร้างชั้นเคลือบฟัน ทำให้ผิวเคลือบฟันแข็งแรงน้อยกว่าปกติและมีรูพรุนสีขาวขุ่นโผล่มาบนฟัน
9. ฟันทุกซี่มีอายุขัย
หากหลายคนกำลังคิดแบบนี้อยู่ก็ขอให้หยุดความคิดนี้โดยด่วน เพราะถ้าคิดว่าฟันจะเสื่อมตามเวลา อาจทำให้เราละเลยการดูแลสุขภาพช่องปาก ที่จริงแล้วฟันทุกซี่จะแข็งแรงทนทานได้นั้นขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของเราล้วนๆ ไม่ได้เป็นไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
10. การถอนฟันทำให้ตาบอด
ที่จริงแล้วเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของตากับฟันนั้นแยกจากกันชัดเจน การถอนฟันจึงไม่มีผลกระทบหรือทำลายระบบประสาทตาแต่อย่างใด
11. การจัดฟันทำให้หน้าเรียวขึ้น
ข้อนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าแล้วแต่กรณีจริงๆ เพราะบางคนมีปัญหาขากรรไกรผิดปกติ ทำให้ต้องใช้ขากรรไกรในการบดเคี้ยวมากกว่าคนทั่วไป แต่เมื่อได้รับการรักษาจากหมอฟันเด็กแล้วจะทำให้ขากรรไกรใช้งานน้อยลงกว่าเดิมและยุบลง ทำให้หน้าดูเรียวขึ้นนั่นเอง
12. จัดฟันที่ไหนก็ได้ไม่อันตรายหรอก
ข้อสุดท้ายนี้ถือว่าอันตรายที่สุดในบรรดาความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการดูแลฟัน ถ้าหากฟันเรามีปัญหาแต่ดันไปให้ใครไม่รู้มารักษาฟันให้เรา ไม่ว่าจะการรักษาฟันหัก ฟันคุด หรือการจัดฟันตามสถานที่ที่ไม่ได้รับใบรับรองจากทันตแพทยสภาก็ตาม ยิ่งเสี่ยงต่อปัญหาฟันตามมาอีกมากในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาคลินิกสำหรับดูแลฟันลูกน้อยตั้งแต่ฟันซี่แรกอยู่นั้น จะต้องเลือกคลินิกที่มีใบอนุญาตและมีหมอฟันเด็กที่ได้รับใบประกอบวิชาชีพทันตแพทย์ รวมถึงจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ สามารถรับมือและมีทักษะในการสื่อสารกับคนไข้ที่เป็นเด็กได้อย่างดี เพื่อให้ลูกน้อยมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการดูแลสุขภาพช่องปากนั่นเองครับ
บทความที่น่าสนใจ
- ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับการจัดฟันเด็ก
- เลือกวิธีจัดฟันเด็กให้เหมาะกับฟันของลูก
- ทันตกรรมสำหรับเด็กมีอะไรบ้าง?
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน