ภาวะฟันล้มเกิดขึ้นได้แม้ไม่จัดฟันก็ตาม
Posted: 1 March , 2022ไม่ว่าลูกน้อยของคุณจะจัดฟันหรือไม่ก็ตาม แต่ปัญหาภาวะฟันล้มเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยเสี่ยงซึ่งส่งผลต่อการขึ้นของฟันที่ผิดปกติจนอาจเป็นปัญหาเรื้อรังได้ในอนาคต วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับภาวะฟันดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจและรับมือด้วยความรู้ที่ถูกต้องนั่นเองครับ
ภาวะฟันล้มคืออะไร
ฟันล้มเกิดจากฟันเคลื่อนที่ล้มหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งเพื่อยึดเกาะฟันซี่ที่อยู่ใกล้เคียงตามกลไกลของธรรมชาติ มักพบได้ในบริเวณฟันที่ถูกถอนออกจนเกิดช่องว่างระหว่างฟัน ส่งผลให้เกิดปัญหาฟันอื่นๆ ตามมา เช่น ไม่สามารถบดเคี้ยวอาหารตามแนวแกนของฟัน มีปัญหาการสบฟัน จนอาจเป็นโรคเหงือกอักเสบในที่สุด
สาเหตุของฟันล้ม
- เกิดการสูญเสียฟันแล้วไม่ได้ใส่ฟันปลอม
- จัดฟันแล้วไม่ใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำ
- การสบฟันผิดปกติหรือกระดูกขากรรไกรผิดปกติ
- เหงือกร่น หรือกระดูกรองรับรากฟันละลายตัว
- พฤติกรรมเสี่ยง เช่น การนอนกัดฟัน การใช้ลิ้นดันฟัน
- อายุมากขึ้น
ผลเสียจากการปล่อยให้ฟันล้ม
- ฟันล้มทั่วทั้งปาก
- เศษอาหารติดบริเวณช่องว่างง่ายขึ้น
- ขาดความมั่นใจเวลายิ้ม
- ทานได้แค่อาหารอ่อน
- เกิดฟันผุและโรคปริทันต์
- หากฟันล้มมากไม่อาจใส่ฟันปลอมได้อีกเพราะไม่มีพื้นที่มากพอ
- เคี้ยวได้ไม่ละเอียด ส่งผลให้ระบบย่อยไม่ดี
วิธีการรักษาฟันล้ม
1. ใส่รีเทนเนอร์
เป็นการป้องกันไม่ให้ฟันล้มมากกว่าเดิม ซึ่งคนไข้จะต้องใส่ตลอดเวลา เว้นเฉพาะตอนกินข้าวและทำความสะอาดเท่านั้น เพื่อกันฟันกลับมาล้มตำแหน่งเดิม หากลืมใส่รีเทนเนอร์เกิน 1 สัปดาห์ถึง 1 เดือน แล้วกลับมาใส่อีกครั้งอาจรู้สึกได้ว่าฟันเคลื่อนไปจากเดิมจนแน่นตึงได้ ดังนั้นไม่ควรถอดรีเทนเนอร์จนกว่าหมอฟันเด็กจะอนุญาต
2. ใส่ฟันปลอมทดแทน
เป็นการปิดช่องว่างระหว่างฟันแบบถาวรเพื่อป้องกันฟันเคลื่อนที่และล้มเอียงไปยังตำแหน่งเดิมอีก ทั้งนี้คนไข้ควรเลือกใส่ฟันปลอมที่เหมาะกับตัวเองตามความเหมาะสมของการใช้งาน โดยมีให้เลือกตั้งแต่ฟันปลอมแบบชั่วคราวและแบบถาวร โดยส่วนใหญ่หมอฟันเด็กจะแนะนำให้ทำรากฟันเทียมเพื่อการรักษาระยะยาว
3. จัดฟัน
เป็นการใช้เหล็กหรือลวดเพื่อดึงฟันกลับมาอยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมตามที่หมอฟันเด็กวางแผนไว้ โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ ได้แก่ การจัดฟันแบบโลหะ การจัดฟันแบบเซรามิก การจัดฟันแบบดามอนและการจัดฟันใส แม้ลูกน้อยของคุณจะมีปัญหาฟันล้มทั้งปากก็สามารถจัดฟันได้แต่ค่อนข้างยาก เพราะฟันซี่ที่ล้มนั้นไม่แข็งแรงพอจะใช้เป็นหลักในการดึงฟัน และใช้เวลานานกว่าปกติ
วิธีป้องกันฟันล้ม
- ทำความสะอาดช่องปากอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหาร
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอื่นควบคู่กันไปด้วย ได้แก่ ไหมขัดฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เพื่อให้สุขภาพฟันแข็งแรง
- พบหมอฟันเด็กเป็นประจำทุก 6 เดือน หรือพบทันทีหากมีปัญหาเสี่ยงต่อการสูญเสียฟัน เช่น ฟันหัก, ฟันผุ เพื่ออุดช่องว่างไม่ให้ฟันเคลื่อนที่เข้าไป
- กรณีที่จัดฟันเสร็จแล้วควรใส่รีเทนเนอร์เป็นประจำเพื่อกันฟันล้มจนต้องไปรักษาใหม่หลายรอบ
บทความที่น่าสนใจ
- เลือกวิธีจัดฟันเด็กให้เหมาะกับฟันของลูก
- เลือกสียางจัดฟันอย่างไรให้เหมาะกับเรามากที่สุด
- วิธีรับมือกับปัญหาเหล็กจัดฟันหลุด
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน