เคลือบฟลูออไรด์เด็กมีกี่ขั้นตอน ช่วยดูแลฟันลูกได้ยังไงบ้างนะ
Posted: 21 June , 2022เนื่องจากฟันเด็กเป็นฟันน้ำนมซึ่งแข็งแรงน้อยกว่าฟันแท้ จึงต้องดูแลด้วยวิธีต่าง ๆ รวมถึงการเคลือบฟลูออไรด์เด็กด้วย แล้ววิธีนี้มีกี่ขั้นตอน? ยุ่งยากมั้ย? แล้วช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้นอย่างไรบ้าง ลองมาอ่านกันครับ
ข้อดีของการเคลือบฟลูออไรด์เด็ก
- ฟันแข็งแรงเนื่องจากทนต่อการกัดกร่อนของแบคทีเรียที่มาจากแป้งและน้ำตาลจากอาหารที่เรากิน
- หยุดการลุกลามของปัญหาฟันผุ หากใช้ฟลูออไรด์ในระยะแรกที่ฟันผุ
- ปรับสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก โดยเสริมสร้างแบคทีเรียชนิดดี และยับยั้งแบคทีเรียชนิดไม่ดีไม่ให้กัดกร่อนเคลือบฟัน
เด็กแบบไหนบ้างที่ต้องเคลือบฟลูออไรด์
- เด็กที่ไม่ชอบแปรงฟัน หรือแปรงฟันแปบ ๆ ก็เสร็จ
- เด็กที่ชอบบ้วนปากแทนการแปรงฟัน
- เด็กที่ชอบกัดสิ่งของ หรือนอนกัดฟันตลอดเวลา
- เด็กที่ไม่ชอบทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะเฟรนช์ฟรายส์ และน้ำอัดลม หรือชอบทานอาหารจุกจิกระหว่างวัน
- เด็กเล็กที่ทำความสะอาดช่องปากยาก
ความปลอดภัยในการเคลือบฟลูออไรด์
การเคลือบฟลูออไรด์อาจเกิดอันตรายได้หากใช้เกินขนาด หรือเด็กกลืนลงคอมากเกินไปก็อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน และอาจเกิดจุดบนฟันที่กำลังงอกขึ้น ดังนั้นจึงควรปรึกษาหมอฟันทุกครั้งที่เคลือบฟลูออไรด์
เด็กเคลือบฟลูออไรด์แบบไหนได้บ้าง มีขั้นตอนยุ่งยากมั้ย
การเคลือบฟลูออไรด์สำหรับเด็กมี 2 แบบ ได้แก่
1. เคลือบฟลูออไรด์แบบวานิช
เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือเด็กที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการเคลือบโดยง่าย หมอฟันเด็กจะแปรง หรือขัดฟันของเด็กให้แห้งสะอาด จากนั้นก็ใช้พู่กันทาฟลูออไรด์วานิชบริเวณผิวฟัน หากพบฟันผุ หมอฟันจะทาเน้นไปที่จุดผุสีขาวที่อาจอยู่ด้านบดเคี้ยวและด้านประชิดในซอกฟัน เพื่อทำให้เกิดผลึกแคลเซียมบริเวณเคลือบฟันช่วยระงับรอยผุของฟันและป้องกันฟันผุได้ดี โดยระวังไม่ให้โดนเหงือก เพราะอาจเกิดการระคายเคืองในช่องปาก
2. เคลือบฟลูออไรด์แบบเจล
เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป มีวิธีการเคลือบโดยหมอฟันจะใส่ถาดเคลือบฟลูออไรด์ตามจำนวนฟันและใส่ฟลูออไรด์ ⅓ ของความสูงถาด นำถาดครอบเข้าไปในช่องปากทั้งฟันบน-ล่าง พร้อมกับหลอดดูดน้ำลายเพื่อดูดฟลูออไรด์ส่วนเกินและเอาน้ำลายออก ป้องกันไม่ให้เด็กได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต จากนั้นหมอฟันจะจับเวลาประมาณ 4 นาที แล้วให้เด็กบ้วนน้ำลายและฟลูออไรด์ออก โดยหมอฟันจะใช้หลอดดูดน้ำลายดูดฟลูออไรด์ในช่องปากให้มากที่สุด
3. เคลือบด้วยซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์ (Silver diamine fluoride)
เป็นสารที่ใช้ทาผิวฟันผุเพื่อยับยั้งอาการฟันผุหลาย ๆ จุด โดยบริเวณที่ฟันหยุดผุนั้นจะทิ้งรอยด่างลักษณะสีน้ำตาลหรือดำ
ดูแลตัวเองหลังเคลือบฟลูออไรด์อย่างไรบ้าง
- งดดื่มน้ำและงดรับประทานอาหาร 30 นาที
- รับประทานแต่อาหารอ่อนและน้ำ งดรับประทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป
- งดแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันบริเวณที่เคลือบฟลูออไรด์เป็นเวลา 1 วันเต็ม เพื่อให้ฟลูออไรด์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- คราบเหลืองที่ติดตามฟันหลังจากการเคลือบจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
- หากพบความผิดปกติในช่องปาก ให้รีบพาลูกไปพบหมอฟันเด็กทันที
ควรพาลูกมาเคลือบฟลูออไรด์กี่ครั้งต่อปี
- เด็กที่มีความเสี่ยงต่ำ ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/ปี
- เด็กที่มีความเสี่ยงปานกลาง ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/6 เดือน
- เด็กที่มีความเสี่ยงสูง ควรเคลือบฟลูออไรด์ 1 ครั้ง/3 เดือน
นอกจากเคลือบฟลูออไรด์แล้ว เราจะได้รับฟลูออไรด์จากไหนได้บ้าง
1. น้ำดื่ม
ในน้ำดื่มมีปริมาณฟลูออไรด์แตกต่างกันตามประเภทและยี่ห้อของน้ำดื่ม โดยทั่วไปควรดื่มน้ำวันละ 8 แก้วขึ้นไป เพื่อให้ได้รับฟลูออไรด์ 0-1 มิลลิกรัมต่อวัน
2. ยาสีฟัน
ในยาสีฟันทุกยี่ห้อจะมีส่วนผสมหลักของฟลูออไรด์อยู่เสมอ เพียงแต่ต้องระมัดระวังไม่ให้เด็กกลืนยาสีฟันมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแพ้จนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกซื้อยาสีฟันสำหรับเด็กที่มีปริมาณฟลูออไรด์ 1,000 ppm หรือไม่ควรเกิน 1,500 ppm ตามกำหนดของสมาคมทันตกรรมสำหรับเด็ก
3. ฟลูออไรด์เม็ด
เป็นฟลูออไรด์เสริมที่ช่วยยับยั้งการสูญเสียแร่ธาตุจากการละลายของกรด และช่วยให้กระบวนการคืนกลับของแร่ธาตุในฟันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลักษณะของฟลูออไรด์เม็ดมีทั้งแบบอมในปาก และแบบเคี้ยวก่อนกลืน ซึ่งฟลูออไรด์เม็ดจะมีปริมาณฟลูออไรด์อยู่ที่ 0.25-1 มิลลิกรัม เหมาะสำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงต่อการฟันผุ โดยการใช้ฟลูออไรด์เม็ดจะขึ้นอยู่กับคำแนะนำของหมอฟันและอายุของเด็กด้วย
แม้ว่าจะเคลือบฟลูออไรด์เป็นประจำก็ตาม แต่อย่าลืมดูแลช่องปากของลูกน้อยอย่างเคร่งครัด, หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาฟัน และควรพาลูกน้อยไปพบหมอฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็กปัญหาฟันที่ไม่มองเห็นได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกน้อยของคุณมีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงในอนาคต
บทความที่น่าสนใจ
วิธีการดูแลฟันน้ำนมอย่างไรให้ถูกวิธี
สอนลูกแปรงฟันถูกวิธี มีชัยไปกว่าครึ่ง
ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม
คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน