ลูกฟันโยก รอให้หลุดเองดีมั้ย หรือให้หมอฟันเด็กจัดการให้ดีนะ

Posted: 19 July , 2022

เมื่อเห็นว่าลูกฟันโยกและอยากให้ฟันหลุดออกไปสักที แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการปัญหาฟันแบบนี้อย่างไร วันนี้เรามีวิธีแนะนำมาฝากครับ

ลูกฟันโยก

ฟันโยกเกิดจากอะไร ทำไมโยกแล้วไม่ยอมหลุดสักที

ฟันที่ขึ้นตามช่วงวัยของเด็กนั้นเป็นฟันน้ำนมที่มีความแข็งแรงของสารเคลือบฟันน้อยกว่าฟันแท้ที่เป็นฟันชุดที่สองที่ขึ้นต่อจากฟันน้ำนม ทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อฟันโยกง่ายโดยส่วนใหญ่จะโยกจาก 4 สาเหตุ ได้แก่

 

สาเหตุที่ทำให้ลูกฟันโยก

1. ฟันแท้

ปัญหาฟันโยกในเด็กส่วนใหญ่เกิดจากฟันน้ำนมกำลังจะหลุดตามช่วงวัย ทำให้ฟันค่อย ๆ โยกเพื่อเปิดทางให้ฟันแท้งอกขึ้นมา โดยฟันแท้มีทั้งหมด 32 ซี่ แบ่งเป็นฟันบนและล่างอย่างละ 16 ซี่ โดยฟันแต่ละซี่มีลักษณะและหน้าที่แตกต่างกัน เช่น ฟันหน้าทำหน้าที่ตัดอาหาร, ฟันเขี้ยวใช้ฉีกอาหารออกจากกัน ฯลฯ ฟันแท้ซี่แรกจะเริ่มขึ้นตั้งแต่อายุ 6-7 ปี ขึ้นไป หากลูกมีแนวโน้มว่าฟันโยกแสดงว่าฟันแท้กำลังจะขึ้นแน่นอน

 

2. พฤติกรรมเสี่ยงจากความเคยชิน

เป็นพฤติกรรมที่เด็กทำเองทั้งจากความคุ้นชินและทำโดยไม่รู้ตัว เช่น การกัดฟันทุกช่วงเวลาแม้กระทั่งตอนนอน, การใช้ลิ้นดุนฟันเล่น, การใช้ฟันเปิดฝาขวด, ทานอาหารที่แข็งหรือเหนียวเกินไป รวมถึงความเครียดสะสมก็ส่งผลให้กัดฟันได้ด้วยเช่นกัน ทำให้ฟันใช้งานหนักโดยไม่จำเป็นและฟันสึกหรอเร็วกว่าปกติ

 

3. เครื่องมือจัดฟัน

การใส่เครื่องมือจัดฟันเป็นเวลานานเนื่องจากการไม่พบหมอฟันเด็กตามนัด ทำให้ใช้ระยะเวลารักษาฟันนานขึ้น ส่งผลให้ใส่เครื่องมือจัดฟันนานเกินความจำเป็น สิ่งที่ตามมาคือปัญหาช่องปากเนื่องจากการทำความสะอาดที่ไม่ทั่วถึง กลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่สร้างคราบพลัคขึ้นมาทำร้ายช่องปาก อีกทั้งเครื่องมือจัดฟันทำให้ฟันเคลื่อนที่ตลอดเวลา ส่งผลกระทบให้กระดูกรากฟันเสื่อมสภาพและรากฟันอ่อนแอ

 

4. ปัญหาสุขภาพฟัน

ปัญหาหนึ่งที่ทำให้ฟันโยกคือปัญหาโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์ เกิดจากการที่แบคทีเรียทำปฏิกิริยากับเศษอาหารตามซอกฟัน เกิดเป็นคราบพลัคที่ปล่อยสารพิษออกมาทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อเหงือก หากปล่อยไว้นานอาจกลายเป็นโรคเหงือกอักเสบตามมา และทำลายกระดูกเบ้าฟันและเอ็นยึดปริทันต์จนฟันโยกนั่นเอง

 

5. อุบัติเหตุ

หากเกิดอุบัติเหตุกับฟันโดยตรงหรือเกิดบริเวณใบหน้าก็ตาม เช่น หกล้ม, โดนกระแทกที่ฟันขณะเล่นกีฬา ฯลฯ อาจทำให้เนื้อเยื่อและกระดูกรอบฟันยึดขยายตามแรงดันที่ส่งมายังฟันและทำให้ฟันโยกนั่นเอง

 

สังเกตลูกฟันโยกได้ด้วยอาการเหล่านี้

  • เหงือกร่น
  • เหงือกบวม มีสีแดงสด
  • เลือดออกตามไรฟัน
  • เจ็บฟันเวลากัดฟัน

 

รับมือกับลูกฟันโยกอย่างไรดี

1. ฟันโยกโดยธรรมชาติ

หากฟันโยกตามช่วงวัยอาจปล่อยให้ฟันหลุดเองตามธรรมชาติ ไม่ควรดึงหรือกระตุกฟันให้หลุดเร็วซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บและติดเชื้อ หากรู้สึกรำคาญและอยากให้หลุดโดยธรรมชาติแนะนำให้ใช้ลิ้นดุนฟันอย่างระมัดระวัง, ทานผลไม้แข็ง ๆ เช่น แอปเปิล, ฝรั่ง, แคร์รอต ฯลฯ แต่หากฟันโยกไม่ยอมหลุดแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอว่าควรถอนหรือปล่อยไว้ให้หลุดเอง

 

2. ฟันโยกจากอุบัติเหตุ

หากเกิดอุบัติเหตุจนฟันโยก ไม่แนะนำให้ดึงออกเอง ควรรีบพาลูกไปพบหมอฟันเด็กเพื่อให้คุณหมอวินิจฉัยและหาทางรักษา หากเป็นฟันที่ยังอยู่ในระดับที่รักษาได้ คุณหมอจะรักษาด้วยการรักษารากฟันและทำความสะอาดคลองรากฟันใหม่ หรืออาจผ่าตัดปลายรากฟันในกรณีจำเป็นเพื่อรักษาฟันไว้ใช้งานต่อไป แต่หากฟันโยกขั้นรุนแรงอาจก่อให้เกิดปัญหาฟันตามมา คุณหมอจะถอนฟันซี่นั้นออก

 

3. ฟันโยกจากโรคปริทันต์

คุณหมอจะจ่ายยาพาราเซตามอล หรือไอบิวพรอเฟน เพื่อลดอาการปวดและรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นจึงขูดหินปูนเพื่อขจัดคราบพลัคซึ่งเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียออกจากฟัน นอกจากนี้ยังควรเกลารากฟันเพื่อทำความสะอาดลึกลงไปยังรากฟันที่อยู่ในเหงือก โดยใช้ยาชาเพื่อให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกปวดขณะเกลา

 

หากฟันโยกยังไม่หลุดออกมา คุณหมอจะใส่เฝือกฟันไว้ยึดฟันซี่ข้าง ๆ เพื่อช่วยฟันที่โยกให้ไม่หลุดออกมา แต่หากมีอาการฟันโยกรุนแรง อาจต้องถอนฟันซี่นั้นออกแล้วรักษาด้วยการฝังรากฟันเทียม โดยคุณหมอจะถอนซี่ที่โยกออกและใส่สะพานฟันแทน

 

ด้วยการรักษารากฟันเพื่อเก็บฟันไว้ใช้งาน ไปจนถึงฟันโยกระดับรุนแรง หากปล่อยไว้นานวันอาจเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ ทั้งนี้อาจจะถอนหรือไม่ถอนก็ได้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของหมอฟันเด็ก ซึ่งการถอนออกจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อลุกลามไปยังฟันรอบข้างโดยใช้การทำรากฟันเทียม

 

กันไว้ดีกว่าแก้ วิธีดูแลไม่ให้ลูกฟันแท้โยก

หากลูกต้องทำกิจกรรมเสี่ยงต่อการปะทะ แนะนำให้ใส่ฟันยางครอบฟันขณะทำกิจกรรมเสมอ นอกจากนี้ควรทำความสะอาดช่องปากเป็นประจำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน หรือทุกครั้งหลังมื้ออาหารครึ่งชั่วโมง ที่สำคัญอย่าลืมพบหมอฟันเด็กเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจดูปัญหาช่องปากที่มองไม่เห็นและอาจเกิดขึ้นในอนาคต

 

บทความที่น่าสนใจ


ปรึกษา นัดหมาย หรือสอบถามเพิ่มเติม

 

คลินิกทันตกรรมเด็ก

 

คลินิกทันตกรรม Homey Dental Clinic เป็นคลินิกที่มีบริการการดูแลฟันและสุขภาพเหงือกอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำฟันแบบป้องกัน เช่น เคลือบฟลูออไรด์ อุดฟัน ขูดหินปูน ขัดฟัน การทำฟันแบบรักษา เช่น ถอนฟัน รักษารากฟัน ฟันเทียม ฟันปลอม ผ่าฟันคุด และการทำฟันเพื่อความงามเช่น จัดฟันโลหะ จัดฟันดามอน จัดฟันแบบใส (invisalign) ทำรีเทนเนอร์ การฟอกสีฟันด้วย Zoom ทุกเคสดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

 

นอกจากนี้ยังเป็นคลินิกเฉพาะทางด้านการดูแลสุขภาพฟันเด็กโดยมีทันตแพทย์เด็กที่จบมาโดยเฉพาะถึง 8 ท่าน ทำให้สามารถรับมือกับปัญหาเด็กกลัวหมอฟัน เพราะที่นี่เน้นการดูแลเด็กอย่างเป็นมิตร บรรยากาศเหมือนอยู่ที่บ้าน ทำให้เด็กสามารถมาหาหมอฟันอย่างมีความสุข เปิดประสบการณ์ใหม่ให้เด็กไม่กลัวการรักษาฟัน

 

สาขาทั้งหมดของ Homey Dental Clinic 




สาขากาญจนาภิเษก
ซอย 7/2 แขวง ศาลาธรรมสพน์
เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
สาขาประดิษฐ์มนูญธรรม
991 ซอย ลาดพร้าว 87 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
สาขา I’m Park จุฬา (เฉพาะเด็ก)
โครงการ I’mpark จุฬาฯ  355 ถนน เจริญเมือง แขวง วังใหม่ กรุงเทพมหานคร 10330



ทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้านนี้

ติดต่อเรา